เร่งหาหลักฐาน บัญชีรายรับ-รายจ่ายวัด สูญหาย

View icon 76
วันที่ 16 ก.ค. 2568 | 11.13 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจไล่วงจรปิดเร่งตรวจสอบหามือดีฉกบัญชี รับ-จ่าย วัดใหญ่จอมปราสาท ปี 2567 จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร ในพื้นที่จังหวัด

มะรุมมะตุ้มเพิ่มขึ้นอีกที่จังหวัดสมุทรสาคร เพราะนอกจากเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท จะหายตัวไปแล้ว ตอนนี้เอกสารบัญชีรายรับ-รายจ่าย ปี 2567 จำนวน 6 ชุด ที่หายไปจากห้องทำงานสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร น่าจะมีหลักฐานการโอนเงินให้ สีกากอล์ฟ 1 ล้านบาทนั้น

เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บแฟ้มเอกสารหลักฐานในห้องสำนักงานพระพุทธศาสนา ไฟล์ภาพกล้องวงจรปิด กุญแจห้อง เพื่อตรวจสอบรอยนิ้วมือแฝง และตรวจสอบหลักฐานอื่น ๆ ตามขั้นตอนตามหลักนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง ส่วนการสอบปากคำเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร เบื้องต้นทราบว่าสำนักงานมีบุคลากรจำนวน 7 คน ตอนนี้สอบพยานไปได้แล้วประมาณ 5 คน ยังเหลืออีก 2 คน คาดว่าในวันนี้จะสอบพยานเสร็จทั้งหมด แต่ยังไม่ได้เก็บรอยนิ้วมือ โดยจะขอเก็บลายนิ้วมืออีกครั้งหลังจากตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้ผลข้อมูลหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

ผกก.สภ. เมืองสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ และไม่มีความหนักใจกับคดี เนื่องจากตำรวจทำไปตามพยานหลักฐาน แต่ทั้งนี้ต้องขอระยะเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อคลี่คลายเรื่องที่เกิดขึ้น

ส่วนกรณี "พระสมุห์แผน" รักษาการเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ทำหนังสือขอลาออกจากการเป็นรักษาการเจ้าอาวาสฯ โดยให้เหตุผลว่าต้องการความสงบ แต่ก็ยังพร้อมช่วยดูแลวัดร่วมกับพระรูปอื่นเหมือนเดิม เบื้องต้นเจ้าคณะตำบลท่าฉลอม จะเข้าไปรักษาการเจ้าอาวาสฯ แทน

ส่วนความเคลื่อนไหว หลังจากอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง พระอารามหลวง ได้ลาสิกขาที่วัดตากฟ้า พระอารามหลวง อำเภอตากฟ้า จังหวัดนครสวรรค์ มีพระสงฆ์ของวัดมาเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางบรรยากาศพิธีอย่างเรียบง่าย เมื่อวานนี้ (15 ก.ค.) จากกรณีแชตหลุดเชื่อมโยงกับ “สีกา กอล์ฟ”

นอกจากนี้ยังมีการ เปิดข้อมูลหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวงและอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร เกี่ยวกันพับสีกา เมื่อปี 2559 ต่อมา ปี 2561 อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ที่เพิ่งย้ายไปดำรงตำแหน่งที่นั่น ทำเรื่องทวงถามไปยังอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรว่าท่านชี้แจ้งเรื่องนี้หรือยัง กลับถูกโยกย้ายในปีเดียวกัน

ส่วนเช้านี้ที่วัดท่าหลวง พระอารามหลวง จังหวัดพิจิตร พบว่า พระสงฆ์ยังคงลงพระอุโบสถสวดมนต์ทำวัตรเช้า ตามปกติ โดยมี พระเมธีธรรมประนาท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะอำเภอเมืองพิจิตร ซึ่งได้รับมอบหมายให้รักษาการเจ้าอาวาส นำประกอบพิธีเช้าท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเงียบเหงา หลังอดีตเจ้าอาวาสได้ลาสิกขาไป

มีรายงานว่าวันนี้ ตำรวจ บก.ปปป. และ ปปท. เตรียมลงพื้นที่เข้าตรวจค้นกุฏิ เพื่อขยายผลหาหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับทรัพย์สินและเส้นทางการเงิน  ซึ่ง ผู้อำนวยการสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร ก็พร้อมที่จะเป็นหน่วยงานที่คอยดูแล ประสานกับทางวัดเพื่อให้เกิดการเรียบร้อย ส่วนการแต่งตั้งเจ้าคณะจังหวัดและเจ้าอาวาสวัดท่าหลวงรุ่นใหม่นั้นต้องรอให้ทางคณะสงฆ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาดูแลทำการแต่งตั้งรักษาการแทน คาดว่าคงจะแต่งตั้งในเร็ว ๆ นี้ 

ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร หรือ วัดใหญ่ อำเภอเมืองพิษณุโลก เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ยังคงหายตัวเงียบ และยังตรวจสอบไม่พบว่าลาสิกขาแล้วหรือไม่ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก ก็ยังไม่สามารถติดต่อเจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลกได้ โดยพบเจ้าคณะจังหวัดฯ ล่าสุด วันที่ 4 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ตอนนี้มีกระแสข่าวว่าท่านเข้าไปจำพรรษาอยู่ที่วัดชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

ล่าสุดมีรายงานว่า รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "เจ้าคณะจังหวัดพิษณุโลก แจ้ง สหธรรมิก ใกล้ชิดว่า จะสละสมณเพศวันนี้"

ส่วนที่วัดเทพปูรณาราม อำเภอเมืองขอนแก่น พระครูศรีปริยัติบัณฑิต รองเจ้าคณะอำเภอเมืองขอนแก่น และรองเจ้าอาวาสวัดเทพปูรณาราม ได้เปิดใจ หลังถูกโยงกรณีโอนเงินสีกากอล์ฟ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะกรรมการที่แต่งตั้งขึ้นตามขั้นตอน 

ขณะนี้ คณะสงฆ์สรุปผลสอบ “ไม่ปรากฏความผิด” ถือเป็นบทเรียนสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของ “ความไว้วางใจ” ที่บางครั้งแม้จะทำไปด้วยเจตนาดี แต่วัตถุประสงค์ที่แท้จริงอาจมีเงื่อนงำซ่อนอยู่ เชื่อศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนา อาจจะได้รับผลกระทบในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าในระยะยาวทุกคนมีสติก็จะเกิดแรงศรัทธากลับมาช่วยกันทำนุบำรุงศาสนาตามเดิม