ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยหลังบรรลุขอตกลงภาษีกับสหรัฐฯ ว่าการเจรจาเป็นไปอย่าง "ยากลำบากมาก" โดยอินโดนีเซียต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตรา 19 % แลกกับภาษี 0 % ของฝั่งสหรัฐฯ
วันนี้ โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว หลังการเจรจาเป็นไปอย่าง "ยากลำบากมาก" ซึ่งผลการเจรจาทำให้สหรัฐฯ ลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าอินโดนีเซียจาก 32 % ลงเหลือ 19 % และกับการที่อินโดนีเซียยอมตกลงที่จะเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ ในอัตรา 0 % รวมทั้งให้คำมั่นว่าจะซื้อเครื่องบินโบอิง 50 ลำ, นำเข้าพลังงานจากสหรัฐฯ มูลค่า 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 490,000 ล้านบาท และจะนำเข้าสินค้าเกษตรมูลค่า 4,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือกว่า 146,000 ล้านบาท แต่ยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน
ขณะที่ ประธานาธิบดีปราโบโว ซูบียันโต ของอินโดนีเซีย ระบุผ่านโซเชียลมีเดียว่าา อินโดนีเซียและสหรัฐฯ ตกลงที่จะยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้าเข้าสู่ยุคใหม่ และถือเป็น "การตัดสินใจที่ดีมาก" ในเรื่องภาษีศุลกากรกับทรัมป์
อย่างไรก็ตาม ชาวอินโดนีเซียกลับยังมีข้อกังขากับข้อตกลงดังกล่าว โดยพนักงานตลาดหลักทรัพย์รายหนึ่งระบุว่า "มันไม่ยุติธรรมเลยที่ผู้ส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ ถูกเรียกเก็บภาษี 19 % ในขณะที่สหรัฐฯ ถูกเรียกเก็บภาษี 0 % ซึ่งในความคิดของเขา มันไม่ยุติธรรมเลย" ด้านผู้ประกอบการโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าคนหนึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับการลดลงของความสามารถในการแข่งขันและเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการแสวงหาตลาดใหม่