แม่ทัพภาค 2 ลงพื้นที่ "ปราสาทตาเมือนธม" ชี้เเจงกรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิด ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเป็นระเบิดเก่าหรือใหม่ ถ้าเป็นของใหม่ก็จะส่งเรื่องประท้วงไปยัง UN เพราะกัมพูชาละเมิด "สนธิสัญญาออตตาวา" ลั่น มีวิธีการตอบโต้อยู่แล้ว
วันนี้ (18 ก.ค. 68) เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่มายังบริเวณ "ปราสาทตาเมือนธม" เพื่อรับมอบสิ่งของ รวมไปถึงให้กำลังใจกำลังพลที่ประจำการอยู่บริเวณประสาท
เมื่อมาถึงแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ได้จุดธูป-เทียน กราบสักการะพระประธานที่ตั้งประอยู่บริเวณด้านหน้าฐานปฏิบัติการ ก่อนจะเดินไปรับมอบสิ่งของบริจาคจาก "วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสุรินทร์" และสมาคมแม่บ้านทหารกองทัพภาคที่ 2 จากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงประเด็นกรณีที่นายทหาร 3 นาย เหยียบกับระเบิดบริเวณเนิน 481 ในพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี
ทางแม่ทัพภาคที่ 2 เผยว่า เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จากศูนย์ปฏิบัติการต้านทุ่นระเบิดที่ 3 ซึ่งเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ ได้เข้าไปตรวจเช็ก และเก็บหลักฐานยังจุดเกิดเหตุแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผลการตรวจสอบว่าเป็นระเบิดเก่าหรือระเบิดใหม่ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นมีทั้งเก่าและใหม่ผสมกัน ซึ่งคำว่า "เก่า" คือระเบิดที่เก่าโดยสภาพเช่นขึ้นสนิม ส่วน "ใหม่" คือระเบิดที่สภาพใหม่ โดยพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นสมรภูมิการสู้รบมาก่อน ย่อมมีระเบิดเก่าตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันก็อาจจะมีระเบิดที่ถูกนำมาวางใหม่ หลังเหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา
หลังจากเกิดเหตุได้มีการประสานไปยังทหารกัมพูชา ซึ่งทหารกัมพูชาก็ปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำระเบิดมาวางใหม่ แต่ถึงอย่างไรก็จะต้องรอการตรวจสอบ
ถ้าหากผลการตรวจสอบพบว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นการวางใหม่ ทางไทยก็จะต้องส่งเรื่องนี้ประท้วงไปยังองค์การสหประชาชาติ หรือ UN หรือองค์การสหประชาชาติ เนื่องจากขัดต่อ "สนธิสัญญาออตตาวา" ที่ลงนามเมื่อปี พ.ศ.2540 ซึ่งกัมพูชาก็เป็นหนึ่งในสมาชิกเช่นกัน
หากถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่ระเบิดดังกล่าวเป็นการวางกับระเบิดของกัมพูชา ที่ต้องการจะกินพื้นที่ของไทยเข้ามาเรื่อย ๆ ทางแม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ก็เป็นไปได้ตามยุทธวิธีการรบแบบเก่า
ส่วนทหารที่บาดเจ็บ ทางกองทัพมีการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องการรักษาพยาบาล รวมไปถึงสวัสดิการต่าง ๆ โดยกองทัพบกจะเป็นผู้ทำขาเทียมที่ดีที่สุดให้ และจะบรรจุพี่สาว 1 คน ให้รับราชการนายสิบ แทนนายทหารที่พิการ ยืนยันว่ากองทัพจะดูแลเป็นอย่างดี ไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน
สุเท้ายนี้ ทางกองทัพมีมาตรการในการตอบโต้ไว้แล้ว และเมื่อนักข่าวพยายามสอบถามว่า "วิธีการตอบโต้แบบใด?" ทางแม่ทัพเลี่ยงที่จะตอบ แต่บอกเพียงสั้น ๆ ว่า "เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว"