น้ำเหนือหลากถึง จ.สุโขทัย แล้ว

View icon 116
วันที่ 20 ก.ค. 2568 | 06.05 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - กระทรวงมหาดไทย สั่งตั้งวอร์รูม ติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง หลังมีแนวโน้มว่า ไทยจะมีฝนตกเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ค่ำวันนี้ จากอิทธิพลของพายุวิภา

น้ำเหนือหลากถึง จ.สุโขทัย แล้ว
สถานการณ์น้ำเหนือ เมื่อวานนี้ มีมวลน้ำก้อนแรก ที่หลากลงมาจากจังหวัดแพร่ ถึงประตูระบายน้ำบ้านหาดสะพานจันทร์ จังหวัดสุโขทัย แล้ว

เจ้าหน้าที่ต้องยกประตูระบายน้ำ 4 บาน จากทั้งหมด 5 บาน ระบายน้ำจากหน้าประตูลงท้ายประตู เพื่อให้ลงแม่น้ำยม ซึ่งจะไหลผ่านอำเภอสวรรคโลก ศรีสำโรง และอำเภอเมืองสุโขทัย

ส่งผลให้ช่วง 23.00 น. ที่ผ่านมา ระดับน้ำในแม่น้ำยม ที่ไหลผ่านอำเภอเมือง อยู่ที่ 5 เมตร 95 เซนติเมตร ถือว่ายังต่ำกว่าจุดวิกฤตที่กำหนดไว้ 8 เมตร 14 เซนติเมตร และมวลน้ำก้อนนี้ จะหลากลงพื้นที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดพิจิตร ก่อนไหลเข้าจังหวัดนครสวรรค์

ท่อตัน น้ำรอการระบาย จ.เชียงใหม่
ส่วนที่เห็นอยู่นี้ คือ ถนนชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนกาดก้อง และชุมชนฟ้าใหม่ เป็นจุดที่ราบลุ่มต่ำ และน้ำท่วมขังทุกปี จึงไม่แปลกตาสำหรับชาวบ้านที่นั่น

แต่ที่แปลกใจ คือ ถนนช้างคลาน ตั้งแต่หน้าช่วงโรงแรมแชงกรี-ลา จนถึงช่วงสะพานทางลอด ภาค 5 หรือแม้กระทั่งถนนเจริญประเทศ ที่มีท่อระบายติดริมแม่น้ำปิง มีน้ำรอการระบาย บางที่สูงกว่า 1 เมตร ทั้ง 2 จุดหลักนี้อยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ไม่เคยปรากฎภาพแบบนี้มาก่อน เพราะเมื่อคืน ฝนตกมาแค่ 20 นาทีเท่านั้น

ชาวบ้านอยากบ่นดัง ๆ เลย นับตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ปีที่ผ่านมา ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่มาขุดลอกท่อระบายน้ำเลย ทำให้ดิน ทราย และเศษขยะอุดตัน

บ้านจมโคลน วอนช่วยเหลือ จ.ลำปาง
ไปดูสภาพหลังน้ำลด ที่บ้าน "ปงคก" หมู่ 4 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว จังหวัดลำปาง น้ำลดไปแล้ว 3 วัน ยังคงเหลือคราบโคลนที่ทิ้งไว้ ไม่ใช่น้อย ๆ หลังไหนที่อยู่ติดกับแม่น้ำงาว มีโคลนเข้าบ้านสูงท่วมหัวเข่า

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เทศบาลหลวงใต้ นำน้ำมาฉีดล้างให้ แต่ฉีดได้แค่ครึ่งเดียว บอกน้ำหมด ตอนนี้ ชาวบ้านเขาเดือดร้อน ข้าวของเครื่องใช้ เครื่องนอน เสียหายหมด ไม่มีแม้กระทั่งอุปกรณ์ทำครัว และเริ่มขาดแคลนน้ำดื่มกันแล้ว

ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ สั่งตั้งวอร์รูม กำชับทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ติดตามและประเมินสภาพอากาศ ตลอด 24 ชั่วโมง
ย้ำประชาชนให้ติดตามสถานการณ์จากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง และไม่หลงเชื่อข่าวปลอมที่อาจเกิดการเผยแพร่ทางช่องทางต่าง ๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง