นายประกันตัวผู้ต้องหา เป่าเค้กวันเกิด กอดสั่งลาครั้งสุดท้าย ก่อนตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง ภรรยาเผย ก่อนเกิดเหตุ สามีมาบออกว่า “วันนี้ จะเป็นวันตายของกู”
วานนี้ (19 ก.ค.68) เมื่อเวลา 21.45 น. ร.ต.ท.สัญญา ใจจันทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หนองปรือ ได้รับแจ้งเหตุคนผูกคอตายใต้ต้นไม้ ภายในซอยหลังหมู่บ้านเอื้ออาทร หนองไม้แก่น ม.2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบรุดไปทำการตรวจสอบ พร้อมด้วยหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน เมืองพัทยา
ที่เกิดเหตุ เป็นซอยเปลี่ยว ไม่มีแสงไฟส่องทาง พบศพชายไทยใช้เชือกผูกคอตัวเองอยู่ใต้ต้นสะเดา เมื่อตำรวจเห็นศพคนตาย ถึงกับช็อกกันทุกนาย เนื่องจากผู้ตายเป็นที่รู้จักในแวดวงตำรวจ สภ.หนองปรือ เป็น “นายประกันตัวผู้ต้องหา” สภาพศพใช้เชือกผูกคอตัวเอง อยู่ในท่านั่ง หลังพิงต้นไม้ ขาเหยียดตรงยื่นออกมาที่พื้นถนน คาดกระเป๋าไว้ที่หน้าอก ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายหรือร่องรอยการต่อสู้ ข้างศพพบรถจักรยานยนต์ จอดอยู๋ ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาภรรยาผู้เสียชีวิต เดินทางมาดูศพสามี เมื่อเห็นสภาพศพถึงกับร้องไห้โฮ พร้อมกับให้ข้อมูลกับตำรวจว่า วันนี้เป็นวันเกิดของสามี ช่วงกลางวันที่ผ่านมา ขณะที๋กำลังทำกับข้าว สามีได้เดินทางไปหา แล้วบอกว่า “วันนี้ จะเป็นวันตายของกู” พร้อมกับใช้มือชี้ไปที่กระเป๋าสะพายคาดอก ที่สามีคล้องติดตัวตลอดเวลา ตอนนั้นตนเองไม่อยากมีปัญหาทะเลาะ จึงไม่ได้พูดสวนอะไรกลับไป
จนกระทั่งช่วงหัวค่ำ ทราบเพียงว่าสามีออกมาเลี้ยงฉลอง วันเกิด กับตำรวจที่มีความสนิทสนมและบ้านใกล้กัน จนมาทราบข่าวว่าสามีผูกคอตายใต้ต้นไม้ จึงรีบเดินทางมาดูศพสามีดังกล่าว ยอมรับว่าเสียใจมาก ส่วนสาเหตุ ยังไม่ทราบมาจากเรื่องอะไร รู้แต่เพียงว่า สามี ชอบบ่นน้อยใจพี่น้องที่ จ.นครราชสีมา
ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ ไปยังบ้านของนายตำรวจคนหนึ่ง ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เป็นเจ้าหน้าที่เสมียนประจำวัน ประจำ สภ.หนองปรือ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองรักและนับถือผู้ตาย เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เนื่องจากงานของผู้ตาย จะต้องทำงานร่วมกันระหว่าง ตำรวจ กับ นายประกันผู้ต้องหา จึงทำให้สนิทสนมกัน อีกทั้งผู้ตายเวลาว่าง ก็ชอบไปช่วยงานตำรวจเป็นประจำ จนทำให้ตำรวจทั้งโรงพักรู้จัก โดยก่อนจะเกิดเรื่องเศร้า เวลา 20.31 น. ตนเองได้แอบเซอร์ไพรซ์วันเกิดผู้ตาย ด้วยการแอบไปซื้อเค้กมาให้
ซึ่งก่อนจะเป่าเค้กตนเองก็เริ่มเอะใจ เพราะผู้ตายนั่งเงียบ ไม่พูดไม่จา พอจะให้เป่าเค้ก ก็จะไม่ยอมเป่า แต่สุดท้ายตนเองกับครอบครัว ก็จุดเทียน ร้องเพลงวันเกิด แล้วนำเค้กมาให้เป่า พอผู้ตายเป่าเค้กเสร็จ ก็ก้มหน้ามาหอบแก้มตนเอง 1 ครั้ง จากนั้นก็ขอยืมไฟแช็กเพื่อไปจุดบุหรี่สูบ ตนเองได้เดินเข้าไปหาผู้ตาย แล้วบอกว่า “พี่เป็นอะไร อย่าคิดมาก” แต่ผู้ตายกลับโผเข้ามาสวมกอด และไม่คิดว่านั้นคือเป็นการกอดครั้งสุดท้าย จากนั้นผู้ตายก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป จนเวลาผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมง ก็มีตำรวจโทรมาแจ้งว่า ผู้ตายเสียชีวิตแล้ว
ด้านลูกชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า พอจะรู้เรื่องที่พอเครียด แต่ไม่ขอลงรายละเอียด เพราะไม่อยากมีปัญหาไปมากกว่านี้ โดยทราบเพียงว่า หลังย่าเสีชีวิต พี่น้องพ่อเปลี่ยนไป พ่อเคยบ่นน้อยใจพี่น้องตัวเอง ส่วนเรื่องที่น่าจะมีปัญหาคงมาจากเรื่องมรดกของย่า ซึ่งพ่อเครียดหนักมาเป็นเวลา 2 ปี ก่อนจะมาก่อเหตุดังกล่าว
ส่วนทางคดี ตำรวจได้ให้หน่วยกู้ภัย นำศพผู้ตายไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่โรงพยาบาลพัทยาปัทมคุณ ส่วนสาเหตุ ต้องสอบปากคำญาติอย่างละเอียดอีก และถ้าหากญาติ ไม่ติดใจสาเหตุการตาย ก็จะมอบศพให้กลับนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนี้ต่อไป
