ชายวัย 61 ปี สวมโซ่หนัก 9 กก. ไว้ที่คอ เข้าไปช่วยพยุงภรรยาในห้อง MRI สุดท้ายถูกเครื่อง MRI ดูดเข้าไปกระแทกกับเครื่องจนเสียชีวิต ในนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ
วันนี้ (21 ก.ค. 68) สำนักข่าว BBC รายงานว่า กรมตำรวจเทศมณฑลแนสซอ รายงานว่าว่า เกิดเหตุชายวัย 61 ปี ใส่โซ่ขนาดใหญ่ไว้ที่คอ และเข้าไปในห้องที่มีเครื่อง MRI ที่ Nassau Open MRI ในย่านนัสซอ รัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ ทำให้ถูกเครื่อง MRI ดูดเข้าไปกระแทกบาดเจ็บ และได้เสียชีวิตเมื่อวันวันพฤหัสบดี (17 ก.ค. 68)
ทางคนไข้หญิงรายหนึ่งบอกกับสื่อท้องถิ่น News 12 Long Island ว่า ผู้เสียชีวิตคือสามีของเธอเอง โดยเมื่อวันพุธ (16 ก.ค. 68) ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น เธอเข้ารับการทำ MRI ที่บริเวณหัวเข่า และเธอขอให้สามีเข้ามาช่วยพยุงเธอลุกขึ้น ซึ่งสามีใส่โซ่ขนาด 20 ปอนด์ หรือประมาณ 9 กิโลกรัม ไว้ที่คอ ขณะที่สามีเข้ามาใกล้เธอนั้นเครื่อง MRI ก็ดูดตัวสามีของเธอเข้าไปกระแทกกับเครื่อง ซึ่งเธอได้ตะโกนบอกช่างเทคนิคว่า “ช่วยปิดเครื่องได้ไหม หรือโทร 911 ทำอะไรสักอย่าง ปิดเครื่องบ้านี่ที” หลังจากนั้นทางช่างเทคนิคพยายามดึงสามีของเธอออกจากเครื่อง แต่มันเป็นไปไม่ได้ สุดท้ายเธอเล่าทั้งน้ำตาว่า “สามีได้โบกมือลาเธอ หลังจากนั้นร่างกายของเขาก็หมดแรงไป”
ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ระบุว่า เครื่อง MRI มีสนามแม่เหล็กที่สามารถดึงดูดวัตถุที่เป็นเหล็ก เช่น กุญแจ โทรศัพท์มือถือ และแม้แต่ถังออกซิเจน ซึ่งอาจทำให้เครื่องสแกนเสียหายหรือทำให้ผู้ป่วยหรือบุคลากรทางการแพทย์ได้รับบาดเจ็บได้ โดยทั่วไปแล้ว ผู้ป่วยจะต้องถอดสิ่งของที่เป็นโลหะออกทั้งหมดและเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนเข้ารับการสแกน MRI หรือเข้าใกล้เครื่อง
ก่อนหน้านี้เมื่อปี พ.ศ.2544 ได้เคยเกิดเหตุเด็กชายวัย 6 ขวบ เข้าทำการตรวจด้วยเครื่อง MRI ที่ศูนย์การแพทย์ในนครนิวยอร์ก โดยเครื่องได้ดูดถังออกซิเจนเข้ามากระแทกเด็กชายทำให้กะโหลกศีรษะแตกเสียชีวิต
