ข่าวภาคค่ำ - ไทยไม่เพียงแต่ประท้วงเป็นลายลักษณ์อักษรประเทศกัมพูชา กับการวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในอธิปไตยไทย แต่ไทยพร้อมบรรยายสถานการณ์ให้กับมิตรประเทศเข้าใจก้บสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องการใช้สันติวิธีผ่านหารือทวิภาคไทย-กัมพูชา
ไทย บอกมิตรประเทศ "กัมพูชา" ทำผิดวางทุ่นระเบิด
มติของ ศบ.ทก. ให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษรประท้วงกัมพูชา ว่าละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดตรวจพบมีการนำมาฝังในอธิปไตยของไทย เนื่องจากทุ่นระเบิด PMN-2 ไม่มีในคลังอาวุธของไทย นอกจากนี้จะทำหนังสือถึงประธานอนุสัญญาออตตาวา ให้ทราบถึงการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา เพื่อให้กัมพูชารับผิดชอบ จากนี้จะเดินหน้า ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ให้มิตรประเทศ และองค์กรต่าง ๆ รับทราบ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่มีภารกิจสำคัญในการเก็บทุ่นระเบิดในกัมพูชา เช่น ญี่ปุ่น และนอร์เวย์ พร้อมจัดการบรรยายสรุปให้กับคณะทูตประจำประเทศไทยด้วย ซึ่งการแก้ปัญหาทางไทยย้ำเสมอว่าต้องใช้สันติวิธี และหารือในทวิภาค เดือนกันยายนนี้ที่จะมีการประชุม JBC หรือจะเป็นการประชุมทวิภาคีอื่น ๆ เช่น RBC GBC
"วันวิชิต" แนะต้องจัดระเบียบชายแดน
ผศ.ดร.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ให้ข้อเสนอแนะว่า รัฐบาลควรสร้างรั้วให้ชัดเจน เพื่อจัดระเบียบการเข้าออกของนักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม พร้อมจะคัดกรองนักท่องเที่ยวไปด้วยในตัว ควรมีการจัดเก็บค่าเยี่ยมชมด้วย วิธีการ 2 แนวทางนี้ น่าจะทำให้กัมพูชาได้คิดว่า ไทยเอาจริงเอาจังกับเรื่องของการจัดการพื้นที่ชายแดน
ยกตู้บริจาค "ปราสาทตาควาย" ไว้ฝั่งกัมพูชา
จากกรณีตู้รับบริจาคภายในบริเวณปราสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ กองทัพบก ชี้แจงว่า ตู้ดังกล่าวถูกนำมาวางโดยฝ่ายทหารกัมพูชา ตั้งแต่หลังเหตุการณ์ปะทะบริเวณชายแดนเมื่อปี พ.ศ.2554 เพื่อให้ประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย ได้ใช้ทำบุญในโอกาสตามประเพณี โดยฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ถือกุญแจ เพื่อป้องกันความเข้าใจผิดในอนาคต และเพื่อความชัดเจนต่อผู้มาเยือน โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทย หน่วยทหารฝ่ายไทยที่รับผิดชอบพื้นที่ได้แจ้งประสานกับฝ่ายกัมพูชา ให้เคลื่อนย้ายตู้บริจาคออกจากพื้นที่ประกอบพิธีภายในปราสาท ไปตั้งยังฝั่งของกัมพูชาแทน เพื่อให้นักท่องเที่ยวของฝ่ายกัมพูชาใช้ทำบุญ โดยไม่ก่อให้เกิดความสับสน ฝ่ายกัมพูชาได้ตอบรับข้อเสนอของฝ่ายไทย และดำเนินการยกตู้บริจาคออกจากพื้นที่ภายในปราสาทตาควายเรียบร้อยแล้ว