หนุ่มตาบอด ช้ำรัก ถูกเมียตาบอดที่อยู่ด้วยกันมา 6 ปี ขอหย่า พยายามจบชีวิตถึง 2 ครั้ง แต่มีคนมาช่วยได้ทัน เผย อยากให้รักกลับมาเหมือนเดิม ด้าน อดีตเมีย เปิดใจ ปมเหตุขอหย่า เพราะถูกนอกกายนอกใจ ต่อหน้า แถมอดีตผัวยังมาขอไปมีอะไรกับหญิงอื่น
วันนี้ (21 ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี รับเรื่องร้องเรียนจากนายวันพระ หรือโอ๊ต อายุ 30 ปี หนุ่มตาบอด ชาว จ.อุดรธานี แจ้งว่า ตนถูกน.ส.กวินธิดา หรือฟ้าใส อายุ 21 ปี ภรรยาที่คบกันมา 6 ปี มีลูกด้วยกันขวบเศษเป็นพยานรัก แต่สุดท้ายหลอกให้ไปอยู่บ้านภรรยา ที่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ อยู่ได้ไม่ถึงเดือน ภรรยาบังคับให้เซ็นใบหย่า หลังหย่าถูกไล่หนีออกจากบ้านทันที เรื่องนี้ช้ำใจมาก ไม่คิดว่าภรรยาที่รักกันมาหลายปีมาทำแบบนี้ เคยคิดสั้นจะฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง ใจก็หวังอยากจะได้ไปอยู่กับภรรยาและลูกเหมือนเดิม ต่อมา ผู้สื่อข่าว เดินทางไปพบกับนายวันพระ หรือนายโอ๊ต ที่บ้านเช่าห้องเล็กๆ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี พบว่านายวันพระฯ อาศัยอยู่กับเพื่อนพิการตาบอดเช่นกัน
นายวันพระฯ เล่าให้นักข่าวฟังว่า ตนเป็นผู้พิการทางสายตา ก่อนที่ตาจะบอด ตอนนั้นอายุ 9 ปี กำลังเล่นฟุตบอล และฝนกำลังจะตก แล้วมีฟ้าแลบฟ้าผ่าลงมาต่อหน้า จากนั้นก็ไปฟื้นที่โรงพยาบาล 2 เดือน ต่อมาตาก็เริ่มบอดสนิท สังคมสงเคราะห์ส่งไปเรียนที่กรุงเทพฯ ตนชื่อชอบการเล่นฟุตบอลโรงเรียน กระทั่งถูกคัดเลือกให้เป็นตัวแทนนักกีฬาทีมชาติไทยตั้งแต่อายุ 15 ปี เคยเข้าแข่งขันกีฬาฟุตบอลในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ที่เมียนมา ปี 2557 และมาเลเซีย ปี 2560 พาทีมสร้างชื่อเสียงและชนะได้เหรียญทองมา 2 ครั้ง แล้วก็ไม่ได้เล่นกีฬาต่อ
จากนั้นก็มาทำงานเกี่ยวกับบริษัทเทรนเนอร์ AI คนตาบอด กระทั่งได้รู้จักภรรยาชื่อฟ้าใสที่ตาบอดด้วยกัน โดยรู้จักผ่านโซเชียลมีเดียและเราคบหากันมานานกว่า 6 ปี มีลูกผู้ชาย 1 คน อายุ 1 ปี 8 เดือน ต่อมาก็เปลี่ยนงานมาร้องเพลงในวงดนตรีคนตาบอดที่ จ.อุดรธานี มีรายได้จากการร้องเพลงเอามาใช้จ่ายดูแลครอบครัวได้ ตอนที่เราอยู่ด้วยกันก็รักกันดี ต่อมาในปีนี้ตนก็จับได้ว่าภรรยาแอบคุยกับผู้ชายคนอื่น เราก็ทะเลาะกันแล้วภรรยาก็ขอเลิกขอหย่า ตอนนั้นตนได้คิดสั้นเอาเชือกไปผูกคอกับพัดลม แต่เชือกขาดก่อนและมีคนมาช่วยทัน
นายวันพระฯ เล่าต่อว่า ทะเลาะกันหนักมาก จนภรรยาขอหย่าที่อุดรฯ แต่ติดตรงไม่มีญาติเป็นพยาน จึงพากันไปหย่าที่ อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นบ้านภรรยา ซึ่งตนกับภรรยาตกลงว่า หากหย่าให้แล้ว ขออยู่ดูแลลูก แต่พอหย่าเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา พอไปที่ว่าการอำเภอเซ็นหย่าตอนเที่ยง บ่ายกลับบ้านภรรยาภรรยาก็ไล่หนีทันที ตกใจอย่างมาก พอหย่าไล่หนีเลย ภรรยาพูดมาคำหนึ่งว่า หย่าแล้ว แล้วจะหน้าด้านอยู่ทำไม จึงยืมเงินเพื่อน 1,500 บาท กลับมาตัวเปล่า แล้วมาหาเพื่อนที่อุดรฯ แล้วก็คิดสั้นจะกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย แต่ก็มีตำรวจมาช่วย และทักขอความช่วยเหลือไปยังเพจข่าวเพื่อขอความช่วยเหลือ ส่วนตัวคิดว่าภรรยาเขาคงไม่ได้อยากอยู่กับตนเองมาสักพักแล้ว เพราะเขาน่าจะมีคนอื่น และผมจับได้ว่าภรรยาผมเขาคุยกับคนอื่นด้วย
ต่อมานักข่าวได้โทรศัพท์ติดต่อไปหาน้องฟ้าใส เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกับอีกฝั่ง โดยฟ้าใส เล่าให้นักข่าวฟังว่า สาเหตุที่ตนกับนายวันพระ หย่ากัน ก็เนื่องมาจาก เรื่องธรรมดาที่ฟังไม่ขึ้น คือ ตอนที่ตนกลับมาคลอดลูกที่บ้านนายวันพระ เขาเอาผู้หญิง ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในวงมานอนด้วย พอตนเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด นายวันพระ ก็จะบอกว่าเรื่องนี้เราคุยจบไปแล้วมันผ่านไปแล้ว หลังจากเราหย่ากันตนก็ไม่ได้ห้ามให้มาเยี่ยมลูก แต่ตนห้ามไม่ให้เขามาวุ่นวายกับตนก็เท่านั้น สาเหตุที่หย่ากันก็เพราะว่าเขามีคนใหม่ก่อน ที่เขาบอกว่า ตนไปมีแฟนใหม่นั้น ไม่จริง ตนก็แค่คุย แต่ไม่เคยพาผู้ชายมานอนที่บ้านเหมือนเขาที่เอาผู้หญิงมานอนด้วย หนูมีคลิปเห็นภาพหลักฐานชัดเจน นอกจากเรื่องผู้หญิงแล้วเขาก็ยังไปสร้างหนี้ไว้ ไม่เคยเป็นหนี้ก็เป็น เรื่องเป็นหนี้เขาไปรับลอตเตอรี่มาขายแต่ไม่เอาเงินไปส่ง เพราะเขาเอาเงินที่ได้ไปเติมเกม
ทั้งนี้น้องฟ้าใสฯ ได้มอบคลิปหลักฐานที่นายวันพระ กำลังมีอะไรกันกับน้องผู้หญิงคนหนึ่งให้กับนักข่าวดูว่าหนูมีหลักฐานชัดเจนและเป็นเรื่องจริง ซึ่งน้องฟ้าใสถ่ายไว้ด้วยตัวเอง โดยน้องฟ้าใสยังบอกกับนักข่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนที่พวกเขาจะมีอะไรกัน สามีมาขอตนเองว่า "ขอพี่ไปมีอะไรกับน้องมันเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม" ตนเองก็ยอมค่ะ ควักเงินในกระเป๋าซื้อถุงยางให้พวกเขามีอะไรกันด้วย ตนเองโกรธมาก ฝั่งเขาที่ทำก่อนค่ะ ตนเองแอบคุยกับคนนั้นคนนี้ก็จริง แต่หนูไม่ได้เอามาอยู่ด้วย หรือว่าหนีไปหาเขาค่ะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังหย่าตนได้ไล่เขาหนีออกจากบ้านจริงหรือเปล่า ฟ้าใสตอบว่า “ก็ไม่เชิงไล่ แต่คนหย่ากันแล้วจะให้อยู่บ้านเดียวกันได้อย่างไร” ทั้งนี้หากจะให้กลับไปหาเขาอีกหนูก็ต้องกลายเป็นคนโง่ ผู้ชายคนนี้ไม่เอาแล้ว ตอนที่รู้ว่าเขามีผู้หญิงคนอื่นตนก็ทนมาอยู่กับเขาไม่ได้กว่า 1 ปี แทนที่ตนจะเดินออกมาตั้งแต่วันนั้นแต่ตนก็ต้องทนอยู่จนถึง “วันนี้ตอนนี้หนูหนีเขามาได้แล้วอย่าให้หนูกลับไปอยู่กับเขาอีกเลย” ฟ้าใสกล่าวทั้งน้ำตาว่าวันที่เขามีอะไรกันตนก็อยู่ และถ่ายคลิปตอนที่เขามีอะไรกันไว้ด้วย ถ้านายวันพระฯ ดูข่าวฟังข่าวนี้อยู่อยากจะบอกว่า “พอกันทีไม่ต้องวุ่นวายกับเราอีกได้ไหม ตอนนี้ตนไม่มีเยื่อใยอะไรกับเขาอีกแล้ว ยิ่งหากเขาทำแบบนี้ตนก็ไม่รู้ว่าเราจะเป็นเพื่อนกันได้อีกไหม” สำหรับลูกที่เกิดด้วยกันตนไม่ได้กีดกันอะไรอยากจะมาหาก็มาได้ แต่หากจะมาใช้ชีวิตร่วมกันเหมือนเดิมมันเป็นไปไม่ได้ ทางใครทางมันแล้วกัน
หลังจากฟ้าใสพูดแบบนั้น ผู้สื่อข่าวจึงถามนายวันพระต่อว่า เรื่องที่ฟ้าใสบอกว่าผมไปนอนกับผู้หญิงอื่น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง ผู้หญิงคนนั้นเป็นน้องที่อยู่ในวงดนตรีคนตาบอดด้วยกัน ก่อนที่จะมีเรื่องนี้ ตนเป็นคนจับเท็จฟ้าใสได้ก่อนว่าไปคุยกับผู้ชายคนอื่น ซึ่งเรื่องที่ตนไปมีอะไรกันเราก็พูดคุยกันว่าเป็นการเอาคืน กรณีที่เขาว่าตนเอาเงินไปใช้สิ้นเปลืองเติมเกมนั้นไม่จริง เงินส่วนใหญ่มาจ่ายค่าเช่าหอพัก ที่ต้องเป็นหนี้ไปหยิบยืมมาให้ก็เพื่อเขาใช้จ่ายในการดำรงชีวิตเพราะว่าเขาไม่ได้ทำงานอะไร เรื่องเกมนั้น เล่นจริง แต่ไม่ได้เอาเงินไปเติมเกม จากนี้ตนก็ต้องหาวิธีทำใจจากเขาให้ได้โดยเร็ว กรณีลูกชายตนสามารถไปหาได้ เรื่องนี้ก็สบายใจขึ้นมานิดนึง แต่!!จากนี้ไป ไม่รู้จะชีวิตอย่างไร ถ้าไม่มีลูกและภรรยาที่คบกันมาถึง 6 ปี
