ห้องข่าวภาคเที่ยง - ข่าวนี้ต้องบอกว่ากรรมติดจรวด คนร้ายขโมยรถกระบะของเจ้าอาวาส ซิ่งหลบหนีไปไกล 20 กิโลเมตร ก่อนจะประสบอุบัติเหตุกลางไร่อ้อย คนร้ายไม่วายทิ้งรถหลบหนี
คนร้าย คือ นายชานนท์ อายุ 27 ปี และ แฟนสาว คือ นางสาวจุฑารัตน์ อายุ 26 ปี ปีนขึ้นไปซ่อนตัวอยู่บนต้นข่อย แต่ก็ไม่พ้นสายตาตำรวจ ถูกนำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก ท่ามกลางเสียงตะโกนสาปแช่งจากชาวบ้าน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายชานนท์ ไปขโมยรถกระบะของเจ้าอาวาสวัดบ้านโคกใหญ่ ก่อนขับหลบหนีไป กระทั่งเมื่อวาน 21 กรกฎาคม นายชานนท์ ขับรถกระบะที่ขโมยมา กลับเข้ามาที่หมู่บ้านเพื่อรับแฟนสาว ชาวบ้านเลยรีบแจ้งตำรวจ แต่ นายชานนท์ ไหวตัว รีบขับรถหลบหนี ตำรวจ สภ.คูเมือง ก็ขับรถไล่ล่ากว่า 20 กิโลเมตร เข้าไปในป่าอ้อยที่บ้านสามศิลา
สุดท้ายรถกระบะเสียหลัก พลิกตะแคงกลางไร่อ้อย แต่ นายชานนท์ ไม่ยอมให้ถูกจับโดยดี วิ่งหนีเข้าป่าอ้อยไปกับแฟนสาว จนไปถูกจับกุมตัวได้บนต้นข่อย
พอนำตัวไปสอบสวน นายชานนท์ อ้างว่า วันเกิดเหตุเข้าไปในวัด เห็นรถกระบะจอดเสียบกุญแจเอาไว้ จึงขโมยไปโดยไม่ได้วางแผนล่วงหน้า จากนั้นก็ขับเข้ากรุงเทพฯ ในรถเจอเงิน 30,000 บาท ก็เอาไปใช้จ่าย ซื้อของใช้ เสื้อผ้า เติมน้ำมันจนหมด จากนั้นย้อนกลับมาหาแฟน พอเจอตำรวจจึงขับรถหลบหนี
ล่าสุดเช้าวันนี้ ตำรวจควบคุมตัวนายชานนท์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่วัดบ้านโคกใหญ่ โดยมีพระและชาวบ้าน ไปมุงดูแน่นวัด
จากการพูดคุยกับผู้ต้องหา เจ้าตัวรับว่าก่อเหตุตั้งอายุ 11 ปี หลังพ่อแม่ตายหมด เข้าออกสถานพินิจและเรือนจำฯ ในคดีลักทรัพย์ รวมทั้งหมด 16 คดี แบบว่าออกมาก็ก่อเหตุอีก แล้วก็กลับเข้าไปใหม่ เป็นแบบนี้ตลอด เงินที่ได้ก็เอาไปใช้จ่ายและซื้อยาบ้าเสพ
หลังวางกำลังตำรวจโดยรอบ ก็นำตัว นายชานนท์ ไปทำแผน โดยมีชาวบ้านไปยืนตะโกนด่าทอ เจ้าตัวบอกว่า ก่อนจะขโมยรถกระบะ ไปขโมยรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านมา แล้วน้ำมันหมด จึงเดินไปหารถจักรยานยนต์ชาวบ้าน เจอก็ดูดน้ำมันใส่รถจักรยานยนต์ที่ขโมยมา จากนั้นก็เดินเข้าไปในวัดตั้งใจจะหาขโมยของ แต่ไปเจอรถกระบะเสียบกุญแจเอาไว้ เลยขโมยไปขับเล่น ขับไปหาพี่สาวที่จังหวัดลพบุรี แต่ไม่เจอ เลยขับไปเที่ยวกรุงเทพฯ จากนั้นก็ขับกลับมาที่บุรีรัมย์ ตั้งใจกลับไปเอาเสื้อผ้า แต่ถูกตำรวจไล่จับก่อน