สนามข่าว 7 สี - ยังอยู่ที่เรื่อง "อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์" ในจังหวัดนครสวรรค์ วันนี้ (23 ก.ค.) ตำรวจจะยังเข้าตรวจสอบเพื่อค้นหาหลักฐานคลี่ปมเส้นเงิน หลังวานนี้ ตำรวจเข้าค้นพิกัดสำคัญ ก็พบพิรุธอื้อ โดยเฉพาะยอดเงินจุดพุทธอุทยานฯ งบฯก่อสร้างพุ่งไปกว่า 385 ล้านบาท หนำซ้ำ 2 สีกาคนใกล้ชิด ที่จะเชิญมาสอบปากคำ ก็ยังล่องหนติดต่อไม่ได้
หลังตำรวจ บก.ปปป., เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าค้น 4 จุด วานนี้ ทั้งที่กุฏิอดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์, มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หรือ มจร. วิทยาเขตนครสวรรค์ และพุทธอุทยานนครสวรรค์ เรียกว่า ทุกจุดมีพิรุธ เช่น ที่กุฏิอดีตเจ้าอาวาสฯ ก็พบโฉนดที่ดิน มีชื่อ "เศรษฐินี" อยู่ 1 ฉบับ เป็นที่ดินในจังหวัดนครสวรรค์ ซุกไว้ในตู้เซฟ หรือที่ มจร. ก็พบช่วงอดีตเจ้าอาวาสฯ ลาสิกขา เป็นเวลาเดียวกับสีกาคนสนิท จู่ ๆ ก็ลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน แถมสถานะการเงินก็ยังติดลบปีละ 7-8 ล้านบาท
โดยเฉพาะข้อมูลจุดพุทธอุทยานนครสวรรค์ ที่ก่อสร้างไม่เสร็จเสียที ทีมข่าว 7HD ที่ลงสนามไป เจอหนังสือแสดงการพัฒนาโครงการพุทธอุทยานฯ มีรายละเอียดเพียบตั้งแต่ที่มา-ที่ไป รวมถึงงบประมาณ
ตั้งแต่เริ่มโครงการเมื่อปี 2548-2564 ที่ใช้งบฯ ไปแล้วกว่า 385 ล้านบาท ส่วนที่ขาดหายไปช่วงปี 2565-2568 ตำรวจ บก.ปปป. ประเมินว่า เมื่อรวมกับงบที่ใช้จ่ายไปแล้ว อาจทำให้อุทยานฯ แห่งนี้ มีเงินบริจาคเข้ามาเพื่อใช้ก่อสร้างมากถึง 500-600 ล้านบาท
ไม่ใช่แค่งบฯ สร้างพุทธอุทยานฯ ทีมข่าวยังได้จดหมายร้องเรียนจากชมรมคนรักพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เขียนเป็นฉบับที่ 3 เมื่อ 6 มิถุนายน 2558 เนื้อหาพูดถึง "อดีตเจ้าอาวาส" กล่าวหาว่า ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ทั้งมีภรรยาอย่างเปิดเผยถึง 2 คน แถมยังให้ทั้ง 2 คน ดูแลเงินในบัญชีวัด
พอนำมาเปรียบเทียบเบาะแสในโซเชียลว่า "อดีตพระ" มีโลก 3 ใบ คนแรก ทนายความ คนที่ 2 เศรษฐินี และคนที่ 3 อาจารย์ใน มจร.
แต่ที่ตำรวจบอกคดีนี้มีแค่สีกา 2 คน เพราะคนที่เป็นทนายความ ได้เลิกรากันไปแล้ว จึงเหลือแค่ 2 คน ที่เส้นทางการเงินแตะไปถึงตัว
ส่วนที่ "บิ๊กเต่า" พูดถึงเส้นทางการเงิน มีคนเกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน คือ อดีตพระ, พระลูกวัด และฆราวาส ทีมข่าวไปคุยกับไวยาวัจกร ทำให้รู้ว่าที่วัดมีระบบเบิกจ่ายเงิน โดยมี พระครูวินิฐ กับพระครูวินัยธร ทำหน้าที่ดูแลการเงิน และมีพระครูนิรัญ เป็นฝ่ายบัญชี ซึ่งว่าจ้างบริษัทเอกชน จัดการบัญชีของวัด มาตั้งแต่ปี 2554 ไวยาวัจกรจึงเป็นแค่คนคอยเซ็นรับทราบ โดยไม่รู้ว่าเงินวัดที่เบิกจ่าย ถูกนำไปใช้ทำอะไร
วันนี้ (23 ก.ค.) ก็ยังต้องตามต่อในการค้นหาหลักฐานคลี่ปมเส้นเงิน เพราะมีการเชิญพนักงานสอบสวน เคยทำคดี "พระ" ในจังหวัดพิจิตร มาช่วยตรวจสอบเส้นทางการเงิน ก่อนนำหลักฐานทั้งหมดมาตรวจสอบอย่างละเอียดที่กรุงเทพฯ