ชายขับเก๋งขนถุงบรรจุยาอีผง 39 กก. วางทิ้งที่ล็อบบี้อะพาร์ตเมนต์ กลางเมืองอุดรฯ ตำรวจ คาดนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน สั่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด
วันนี้ (23 ก.ค.68) ร.ต.อ. ธนวัฒน์ สรวงศิริ รอง สวป. สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทองว่า พบกระเป๋าสีดำขนาดใหญ่วางอยู่ที่ล็อบบี้ ภายในอะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี คาดว่าจะเป็นสิ่งของผิดกฎหมาย หรือยาเสพติด เนื่องจากวัตถุในกระเป๋ามีลักษณะเป็นก้อนๆ จึงออกตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุศักดิ์ ศักดาวัชรานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี, พ.ต.อ.พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก. สภ.อุดรธานี , พ.ต.ท.พิเชษฐ์ ปักเคธาติ รอง ผกก.สส. สภ.เมืองอุดรธานี, พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี กำลังตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจงานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอุดรธานี กว่า 20 นาย
ที่เกิดเหตุพบนายบุญหลาย อายุ 73 ปี รปภ.อะพาร์ตเมนต์ และพนักงานแคชเชียร์ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบถุงผ้าขนาดใหญ่วางอยู่มุมห้องล็อบบี้ชั้นล่าง เมื่อเปิดกระเป๋าตรวจสอบพบก้อนวัตถุห่อด้ายเทปกาวสีน้ำตาล คล้ายกับห่อยาบ้า มีตัวเลข 9999 เขียนไว้ และมีสัญลักษณ์คล้ายกับตัวหนังสือกำกับไว้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นตัวหนังสือของประเทศไหน เมื่อแกะตรวจสอบพบเป็นถุงชาจีนผงสีเหลือง จึงใช้แถบทดสอบหาสารเสพติดพบเป็นผลบวกทั้งหมด จึงประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบให้แน่ชัด เบื้องต้นพบว่าเป็นยาอีชนิดผงสีเหลือง ที่มีส่วนผสมของยาไอซ์ และยาเค นำอัดเม็ดขายให้กลุ่มผู้เสพ นักท่องราตรี ที่เรียกกันว่ายาอี และยาเค คาดว่านำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ทราบว่าทางภาคเหนือหรือทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนที่ขบวนการค้ายาเสพติดนำมาบรรจุในถุงชาจีน ก็เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เมื่อเจอด่านตรวจยาเสพติด จากการตรวจสอบข้อมูลการจับกุมของตำรวจปราบปรามยาเสพติดที่ 30 และ บก.แม่ขาว จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉานตะวันออก ประเทศเมียนมา พบว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 67 จับกุมชายชาวไทยใหญ่ 2 คน ขับรถเก๋งขนยาเคตามีนแบบผง จำนวน 70 กก. ซึ่งมีลักษณะเหมือนกันกับการตรวจยึดในครั้งนี้
นายบุญหลาย เล่าว่า ค่ำวานนี้มีรถเก๋งสีขาวขับเข้ามาจอด และชายคนขับอายุประมาณ 30 กว่าปี ถามตนว่าจอดได้นานไหม ตนก็ตอบว่าจอดได้ ตนเห็นคนในรถมีเพียงคนขับคนเดียว แล้วเขาก็ขับวนมาบอกให้ตนช่วยเก็บกระเป๋าไปไว้ในที่ร่มหน่อย เพราะกลัวเปียกฝน จากนั้นก็ขับรถออกไป ซึ่งเขาไม่ได้บอกว่าเป็นถุงของใคร และเป็นกระเป๋าอะไร กระทั่งแคชเชียร์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นถุงบรรจุยาเสพติด
ด้าน พ.ต.อ.อนุศักดิ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าสิ่งของในถุงเป็นยาเสพติด แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นยาเสพติดประเภทไหน จากการจับกุมที่ผ่านมาลักษณะบรรจุหีบห่อ และตัวผงมีลักษณะสีไม่เหมือนกัน เชื่อว่าเป็นยาเสพติดประเภทยาอี โดยผงยาอี 1 กก. หรือ 1 ก้อน เมื่อเอามาปั๊มเป็นเม็ดยาอีได้ประมาณ 3 พันเม็ด ถ้าเอามาจำหน่ายเป็นเม็ดราคาเม็ดละ 500-700 บาท ถ้ารวมมูลค่า 1 ก้อน ราคาประมาณ 1,200,000-1,500,000 บาท ของกลางที่ยึดได้รวมทั้งหมด 39 ก้อน น้ำหนักประมาณ 39 กก. มูลค่าก็จะอยู่ที่ 60- 65 ล้านบาท หลังจากนี้จะให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อยืนยันตามขั้นตอนของกฎหมาย
ยาเสพติดล็อตนี้เชื่อว่าน่าจะมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะดูจากลักษณะหีบห่อ ตัวอักษร ที่ปรากฏในห่อ เป็นลักษณะตัวอักษรที่ไม่ใช่ของประเทศไทย โดยคนร้ายมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงสีของสารเสพติดให้ดูน่าใช้ เพราะที่ผ่านมาตำรวจปราบปรามยาเสพติดเคยจับยาได้มีทั้งสีเขียว สีเหลือง สีส้ม และสีเขียวอ่อนๆ แต่ล็อตนี้เป็นสีเหลืองอ่อน อีกอย่างที่ขบวนการค้ายาเสพติดใช้สีผสมยาเสพติดก็เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และให้รู้ว่าสัญลักษณ์ตัวนี้เป็นสารเสพติดประเภทนี้ มีทั้งส่วนผสมของยาไอซ์ ยาเค และยาอี
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมอบหมายให้ ผกก. สภ.เมืองอุดรธานี และชุดสืบสวนเมืองอุดรธานี ไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่รถเก๋งต้องสงสัยขับเข้ามาและหลบหนี เพื่อตรวจสอบว่าเป็นรถของใคร และมีทั้งหมดกี่คน ทำกันเป็นขบวนการหรือไม่ รวมถึงต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าเอากระเป๋ามาวางเวลาใด เมื่อทราบแล้วก็จะต้องขยายผลว่าขบวนการนี้จะส่งยาเสพติดไปที่ใดต่อ