ห้องข่าวภาคเที่ยง - ย้อนไปดูเหตุการณ์ ก่อนเกิดการปะทะ เริ่มตั้งแต่ช่วงเมื่อเย็นวานนี้ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด ขาขาดไปอีก 1 คน ทำให้ไทยไม่ทน ออกมาตอบโต้กัมพูชาด้วยท่าทีแข็งกร้าว แบบมีมารยาท
หลัง จ่าสิบเอก พิชิตชัย บุญชูหล้า ทหารชุดลาดตระเวน กองพันทหารราบที่ 14 บาดเจ็บสาหัส ขาขวาขาดจากการเหยียบทุ่นระเบิด เมื่อเย็นวานนี้ ช่วงเวลา 16.55 น. ขณะลาดตระเวน ในพื้นที่ห้วยบอน ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
ซึ่งจากการสอบถามทหารที่บาดเจ็บ บอกว่า ก่อนเกิดเหตุชุดทหารได้เข้าเจรจากับทหารกัมพูชาที่ล้ำเขตเข้ามา แต่เจรจากันไม่ได้ จึงใช้แผนผลักดัน โดยจุดเกิดเหตุอยู่หน้าแนวห่างจากทหารกัมพูชาไม่เกิน 100 เมตร จ.ส.อ. พิชิตชัย เป็นหัวหน้าชุด เข้าผลักดันและเดินนำหน้า และเหยียบทุ่นระเบิด แน่นอนว่าเหตุการณ์นี้ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทหารไทยก็เพิ่งเหยียบกับระเบิด
กระทั่งแม่ทัพภาคที่ 2 สั่งปิดปราสาทฯ ในจังหวัดสุรินทร์ และ 4 ด่านฯ ใน 3 จังหวัด ตั้งแต่วันนี้ (24 ก.ค.) ด้านกระทรวงการต่างประเทศ เชิญเอกอัครราชทูต อุปทูต ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต ต่างประเทศ ประจำประเทศไทย และผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ 93 คน จาก 68 ประเทศ เข้ารับฟังสรุปสถานการณ์ โดยไทยยืนยันการตรวจสอบทุ่นระเบิดไม่มีการใช้ หรือไม่มีในคลังอาวุธของประเทศไทย จากข้อมูลพยานหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นทุ่นระเบิดของกัมพูชา ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง พร้อมประณามความรุนแรงว่าเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักการพื้นฐาน กฎหมายระหว่างประเทศ และไทยได้มอบหนังสือประท้วงอย่างเป็นทางการให้กับผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ด้วยสถานการณ์ชายแดน ที่มีความพยายามยั่วยุจากฝั่งกัมพูชานำไปสู่การเรียกเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ กลับไทย และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชา กลับประเทศ