สพฐ. ติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชาใกล้ชิด กำชับ สพท.-โรงเรียนพื้นที่เสี่ยง ใช้มาตรการความปลอดภัยระดับสูงสุด เตรียมพร้อมหลุมหลบภัย สำรองอาหาร-ยา
วันนี้ (24 ก.ค.68) ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยสถานการณ์การสู้รบบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ว่า รมว.ศึกษาธิการ และรมช.ศึกษาธิการ มีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรในโรงเรียนพื้นที่ชายแดน 7 จังหวัด จึงมอบหมายให้ สพฐ. ติดตามสอบถามความเป็นอยู่ รวมถึงดูแลความปลอดภัยของนักเรียนและครูในพื้นที่ดังกล่าว โดย สพฐ.ได้เน้นย้ำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและโรงเรียนให้ดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยในระดับสูงสุดตามที่ได้สั่งการไว้ล่วงหน้าแล้ว และมั่นใจว่าโรงเรียนสามารถดูแลนักเรียนได้อย่างปลอดภัย ด้วยการเตรียมความพร้อมล่วงหน้าและการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะโรงเรียนใน “พื้นที่สีแดง” ซึ่งมีความเสี่ยงสูงและตั้งอยู่ใกล้แนวชายแดน จำนวนทั้งสิ้น 239 แห่ง ได้มีการจัดสร้างหลุมหลบภัยที่ได้มาตรฐาน และมีการจัดเตรียมระบบสัญญาณเตือนการอพยพเคลื่อนย้ายเด็ก การสำรองอาหาร ยา และอุปกรณ์จำเป็นอย่างเป็นระบบ ทั้งยังมีการซักซ้อมแผนเผชิญเหตุเป็นระยะ เพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถปฏิบัติตามขั้นตอนความปลอดภัยได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
เลขาธิการ กพฐ. ย้ำว่า สพฐ. ได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านความมั่นคงในพื้นที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ พร้อมปรับมาตรการตามระดับความเสี่ยงที่เปลี่ยนแปลงอย่างทันท่วงที
“ไม่ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อหรือเปลี่ยนแปลงในทิศทางใด สพฐ. ขอรับรองว่า เราจะดูแลนักเรียน ครูและบุคลากรอย่างสุดความสามารถ ทั้งในด้านความปลอดภัยทางกายภาพ และด้านจิตใจ โดยพร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายปกครองในพื้นที่ ให้โรงเรียนเป็นจุดปลอดภัยและเป็นที่พึ่งของนักเรียนและชุมชนในภาวะวิกฤต” ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าว