สรุปปฏิบัติการ "ยุทธบดินทร์" เมื่อวานนี้

View icon 219
วันที่ 25 ก.ค. 2568 | 06.05 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานนี้ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม เกิดการปะทะกัน และขยายพื้นที่ความขัดแย้งออกไป กองทัพบกจึงเปิดปฏิบัติการครั้งนี้ใช้ชื่อว่า "ยุทธบดินทร์" ที่แปลว่า ยุทธการเพื่อปกป้องแผ่นดิน

โดยหลังจากที่มีการปิดด่านไปตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในช่วงเวลา 07.35 น. ทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พบว่ามีการใช้อากาศยานไร้คนขับบินวนอยู่บริเวณหน้าปราสาท แม้จะไม่เห็นตัว แต่ทหารไทยได้ยินเสียงอย่างชัดเจน จากนั้นได้มีทหารกัมพูชา 6 นาย พร้อมอาวุธ เข้ามาวางกำลังบริเวณหน้าแนวลวดหนาม ในจำนวนนี้มีเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถังแบบ RPG-7 อยู่ด้วย โดยมีท่าทีจะลุกข้ามแนวลวดหนามเข้ามา

ฝ่ายไทยจึงตะโกนเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง กระทั่งเวลา 08.20 น. ทหารกัมพูชา อีกกลุ่มที่วางตัวอยู่ทางทิศตะวันออกด้านปราสาทตาเมือน ระยะ 200 เมตร ได้เปิดฉากยิงด้วยอาวุธปืนเล็กยาว และเครื่องยิงลูกระเบิดเข้ามา ฝ่ายไทยจึงเปิดฉากยิงเพื่อตอบโต้

จากนั้นเวลา 09.20 น. ทหารกัมพูชาได้มีการเปิดฉากยิงจรวดหลายลำกล้อง แบบ BM-21 และใช้ปืนใหญ่ขนาด 122 มิลลิเมตร ยิงเข้ามาฝั่งไทยถูกทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และเป็น 2 นายแรกที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะ

และ 09.47 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงตลอดแนว ตั้งแต่ปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ไล่ไปยังเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ ไปจนถึงช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี จนมีจรวดแบบ BM-21 และปืนใหญ่เข้ามาตกใส่พื้นที่พลเรือน เป็นบ้านเรือนประชาชนตามแนวชายแดน และศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 3 คน

เวลา 09.55 น. จึงคำสั่งให้มีการอพยพประชาชน ออกจากบ้านในพื้นที่ใกล้กับพื้นที่ที่มีการขัดแย้งตามแนวชายแดน

เวลา 10.03 น. พบทหารกัมพูชา พยายามลุกเข้าพื้นที่ชายแดน มาจากทางด้านปราสาทตาควาย กองทัพภาคที่ 2 จึงมีคำสั่งอนุมัติให้ใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ เพื่อปกป้องอธิปไตย

ก่อนจะเริ่มมีรายงานว่า มีจรวดเข้ามาตกใส่บ้านเรือนประชาชน ถนน และปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่บ้านผือ ตำบลทุ่งใหญ่ อำเภอกันทรลักทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 คน และเสียชีวิต 7 คน

นอกจากนี้ที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ มีจรวดแบบ BM-21 เข้ามาตก ทำให้แนวปะทะกลายเป็น 4 จังหวัด (บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี) จังหวัดบุรีรัมย์ จึงมีคำสั่งให้อพยพชาวบ้านในพื้นที่ 2 ตำบล คือตำบลสายตะกู และตำบลจันทบเพชร อำเภอบ้านกรวด ออกจากพื้นที่

เวลา 10.51 น. จึงมีคำสั่งให้ F-16 ขึ้นบินเข้าโจมตีเป้าหมาย เป็นกองบัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 8 และกองบัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 9 ของทหารกัมพูชา ที่ช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี

เวลา 10.58 น. หรือหลังจากมีการออกคำสั่งเพียง 7 นาที เครื่องบิน F-16 ได้ขึ้นบินและโจมตีต่อเป้าหมายทั้งสองแห่งด้วยระเบิดนำวิถี (Guided Bomb) ต่อเป้าหมายทั้งสองแห่งสำเร็จ

โดยทั้งสองจุด เป็นหน่วยบัญชาการอาวุธปืนใหญ่ และจรวดหลายลำกล้อง ในการโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทย การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นการตัดกำลังอาวุธระยะไกล ที่สนับสนุนการรบของทหารกัมพูชา

จากนั้นมีการโจมตีด้วยเครื่องบิน F-16 อีกระลอกต่อเป้าหมาย ใส่จุดตรวจการณ์ภูผี ตรงข้ามปราสาทโดนตวล บริเวณช่องตาเฒ่า ชายแดนด้านเขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ

ก่อนที่เวลา 11.37 น. ทหารไทยได้เปิดฉากรุกเข้าตีภูมะเขือ และทำลายกระเช้าขึ้นภูมะเขือ ที่ทหารกัมพูชาสร้างล้ำเข้ามาก่อนหน้านี้ได้สำเร็จ ทหารกัมพูชาจึงเปลี่ยนไปใช้เส้นทางถนน และบันได ในการเข้าพื้นที่ เพื่อตอบโต้ แต่ทหารไทยได้พยายามลุกเข้าไปทางด้านหน้า เพื่อพลักดันให้ทหารกัมพูชาตกภูมะเขือ

เวลา 11.54 น. ทหารกัมพูชาได้ยิงจรวดเข้ามาโจมตีโรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ มีคนไทยเสียชีวิต 1 คน และมีจรวดมาตกที่บ้านโจดก หมู่ที่ 2 ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง ชาวบ้านเสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 3 คน

กระทั่งช่วงบ่ายชายแดนด้านพระวิหารก็เดือดขึ้นมาอีกรอบ เมื่อทหารกัมพูชาใช้เครื่องยิงลูกระเบิดเข้าใส่ทหารไทย และยังมีการใช้รถถัง 2 คัน ยิงปืนใหญ่รถถัง มาจากจุดตรวจการเขาสัตตะโสม สนับสนุนทหารกัมพูชาที่พยายามยึดพื้นที่ภูมะเขือคืน จนเกิดไฟป่าขึ้น ทหารไทยจึงใช้โดรนเข้าไปทั้งระเบิดใส่เป็นการตอบโต้ กระทั่งเวลาบ่าย 14.41 น. ทหารไทยได้ทำลายรถถัง 2 คัน ของทหารกัมพูชาได้

และยังใช้กำลังทหารราบ บุกยึดวัดแก้วสิขาคีรีสวารา ที่ถูกทหารกัมพูชาเข้ามายึด และตั้งวัดไว้ ตั้งแต่ปี 2554 คืนได้

นอกจากนี้ทหารม้าของไทย ยังใช้รถถังเข้าตียึดพื้นที่ซำแต อำเภอกันทรลักษณ์ กลับคืนมาได้อีกจุด

มาสรุปสถานการณ์ล่าสุดอีกครั้ง ชายแดนด้านปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ มีการยิงตอบโต้กันตลอดทั้งวัน ฝ่ายไทยพยายามเข้ายึดปราสาทตาควาย 2 ครั้ง แต่ยังไม่สำเร็จ ส่วนปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาเมือน ทหารไทยสามารถพลักดันทหารกัมพูชากลับไปได้

พื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี มีการโจมตีกันไปมาตลอดทั้งวัน และ F-16 โจมตีกองบัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 8 และกองบัญชาการกองพลน้อยสนับสนุนที่ 9 ของทหารกัมพูชาได้สำเร็จ

ส่วนชายแดนพระวิหาร หลังใช้เครื่องบิน F-16 โจมตี จุดตรวจการณ์ภูผี ตรงข้ามปราสาทโดนตวล บริเวณช่องตาเฒ่า ได้ ทหารไทยได้ทำลายกระเช้าของทหารกัมพูชา ที่ภูมะเขือ และยึดพื้นที่บางส่วนขอภูมะเขือกลับมาได้ ยังยึดพื้นที่วัดแก้วสิขาคีรีวารา และซำแต กลับคืนมาได้ และยังทำลายรถถังทหารกัมพูชาที่จุดตรวจการณ์เขาสัตตะโสมได้ 2 คัน

ซึ่งการโจมตีของทหารกัมพูชาตลอดทั้งวัน มีการยิงใส่เป้าหมายพลเรือน โดยเฉพาะการโจมตีโรงพยาบาล เป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 4 (ปี 1949) มาตรา 18 ห้ามการโจมตีโรงพยาบาลพลเรือน ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม

ขณะที่ทหารไทย พลตรี วินทัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันทหารไทย ยึดการตอบโต้ให้เป็นไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สามารถใชกำลังได้ ตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อที่ 51 โดยจำกัดการโจมตีไปที่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง