ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ย้ำมาตลอดตั้งแต่เมื่อวาน ว่าการโจมตีของไทย ไม่ใช่การรุกราน แต่เป็นการป้องกันตามแผน "จักรพงษ์ภูวนารถ" และแผน "ยุทธบดินทร์" ที่ถ้าไทยจะโจมตี ต้องโจมตีจุดที่เป็นที่ตั้งทางการทหารของ "กัมพูชา" เท่านั้น
ภาพเครื่องบินอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน ของกองทัพภาคที่ 2 นำลูกระเบิดไปทิ้งใส่เป้าหมาย ปฏิบัติภารกิจทำลายคลังเก็บอาวุธเขมร ช่วงประมาณ 14.00 น.เมื่อวานนี้ เป็นหลักฐานชัดเจนว่า เมื่อไทยต้องโจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายทางการทหาร จะต้องเป็นการโจมตีแบบล็อกเป้า ไม่ใช่การโจมตีแบบที่ควบคุมไม่ได้
เช่นเดียวกับภาพปฏิบัติการทางอากาศของ เครื่องบินขับไล่ F-16 เปิดปฏิบัติการทางทหาร ทั้ง 2 ครั้ง ก็มีการติดตามเป้าหมายภารกิจ เพื่อยืนยันว่าไม่ผิดพลาด หรือสามารถควบคุมความเสียหายไว้เฉพาะเป้าหมายทางการทหารเท่านั้น
เรื่องนี้ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงหลายเรื่องโดยเฉพาะที่มีการบิดเบือนว่า ไทยใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 ติดอาวุธ โจมตีฐานทัพ และพื้นที่พลเรือนในฝั่งกัมพูชา ว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
ยืนยันว่า ไทย ดำเนินการต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลัก จำกัดวงอยู่เฉพาะเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคามทางทหารอย่างระมัดระวัง ภายใต้หลักการป้องกันตนเองตามกฎหมายระหว่างประเทศ และ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
ขณะที่มีข้อมูลด้านการข่าว ระบุว่า ฝ่ายกัมพูชา พยายามตั้งจุดยิงอาวุธสนับสนุน เช่น ปืนใหญ่ และจรวด ใกล้พื้นที่ชุมชน เข้าข่ายเป็นการใช้พลเรือนเป็นโล่กำบัง (Human Shields) ซึ่งขัดต่อหลักมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งจะเห็นได้จากภาพที่สื่อมวลชนต่างประเทศ บันทึกได้ในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา ที่สังเกตเห็นรถติดเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 เคลื่อนที่อยู่ในพื้นที่ชุมชน
ส่วนแผนที่ใช้ในการป้องกันการรุกราน จนถึงตอนนี้ ไทยยังคงใช้เพียงแค่ แผนจักรพงษ์ภูวนารถ และ แผนยุทธบดินทร์ ซึ่งเป็นแผนป้องกัน และตอบโต้ศัตรู ที่ล่วงล้ำอธิปไตยไทย ด้วยยุทธวิธีที่เฉียบขาด และชอบธรรมเท่านั้น