สื่อญี่ปุ่นเผยแพลตฟอร์ม ยูทูบ ทำให้พรรคการเมืองขวาจัดได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่มากขึ้น
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้มีกระแสข่าวเรื่องการลาออกจากตำแหน่งนายรัฐมนตรีญี่ปุ่น จนนายชิเงรุ อิชิบะ ต้องออกมาปฏิเสธ คือการที่พรรคเสรีประชาธิปไตยหรือ พรรค LDP ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล สูญเสียเสียงข้างมากในวุฒิสภา จากการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (20 ก.ค.) ขณะที่แนวโน้มความนิยมพรรคซันเซโตะ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายขวาจัด กลับพุ่งสูงขึ้น จนได้เพียง สว. เพิ่มขึ้นจากเดิม 1 ที่นั่ง เป็น 14 ที่นั่ง
สื่อมวลชนญี่ปุ่นวิเคราะห์ว่า เป็นเพราะแพลตฟอร์ม "ยูทูบ" ทำให้คนรุ่นใหม่หันมาเทใจให้กับนโยบายของพรรคซันเซโตะมากขึ้น จากนโยบาย "ญี่ปุ่นต้องมาก่อน" ตามรอยนโยบาย "อเมริกาต้องมาก่อน" ของประธานาธิบดีดดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่ต่อต้านผู้อพยพต่างชาติ โดยคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่จำนวนมากเข้าถึงการเผยแพร่พฤติกรรมเลวร้ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติและผู้อพยพต่างชาติผ่านช่องทาง "ยูทูบ" นโยบายของพรรคซันเซโตะจึงโดนใจคนรุ่นใหม่
พรรคซันเซโตะ ซึ่งมีนายโซเฮ โคมิยะ เป็นหัวหน้าพรรค แจ้งเกิดผ่านยูทูบในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดทฤษฎีสมคบคิดเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนมากมายจึงมีผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง เมื่อใช้นโยบายต้านผู้อพยพที่เข้มงวดและการให้คำมั่นสัญญาว่าจะช่วยเหลือประชาชนเรื่องค่าครองชีพ จึงได้รับการตอบรับจากคนรุ่นใหม่ และนโยบายขวาจัดเรื่องการจัดตั้งกองทัพก็ทำให้คนรุ่นเก่าหัวอนุรักษ์นิยมเทใจให้กับพรรคซันเซโตะด้วย จนถูกมองว่าแนวคิดต้านชาวต่างชาติจะเป็นอันตรายต่อประเทศญี่ปุ่นในอนาคต
จากผลสำรวจของสถานีโทรทัศน์ NHK พบว่า พรรคซันเซโตะได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มคนอายุ 18 ถึง 39 ปี โดยผู้ชายนิยมพรรคนี้มากกว่าผู้หญิง ขณะที่ผู้ที่สนับสนุนพรรค LDP ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 70 ปี และไม่มีการแบ่งแยกทางเพศที่ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังพบว่าพรรควันเซโตะมีผู้ติดตามผ่านทาง "ยูทูบ" มากกว่าพรรค LDP ถึงสามเท่า และการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาก็สูงกว่าพรรคอื่น ๆ มาก