สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2568

สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2568

View icon 306
วันที่ 25 ก.ค. 2568 | 18.44 น.
ข่าวต่างประเทศ
แชร์
Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 25 กรกฎาคม 2568

1. นานาชาติกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา : UNSC เตรียมประชุมหารือความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่สหรัฐฯ เรียกร้องยุติการสู้รบทันที

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC มีกำหนดจะจัดการประชุมในวันศุกร์นี้ ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ เพื่อหารือเกี่ยวกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หลังนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา เรียกร้องให้UNSC จัดการประชุมด่วนเพื่อหารือเรื่องดังกล่าว

ขณะที่ ฟู่ กง (Fu Cong) ผู้แทนถาวรของจีนประจำสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายมีความยับยั้งชั่งใจ โดยกล่าวว่า จีนทราบดีว่าทั้งกัมพูชาและไทยเป็นเพื่อนบ้านที่ดีของจีน และของกันและกัน อีกทั้งยังเป็นสมาชิกสำคัญของอาเซียน ซึ่งอาเซียนมีประเพณีอันยาวนานในการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธี เราหวังว่าครั้งนี้จะเกิดสันติภาพขึ้นอีกครั้ง และสำหรับจีน เรากำลังไกล่เกลี่ยระหว่างทั้งสองฝ่าย และหวังว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

ด้าน อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และรักษาการนายกรัฐมนตรีไทย โดยแสดงความกังวลต่อความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นตามแนวชายแดนของไทยและกัมพูชา ซึ่งในการสนทนา ในฐานะที่มาเลเซียเป็นประธานอาเซียนในปี 2568 ได้เรียกร้องโดยตรงต่อผู้นำทั้งสองฝ่ายให้หยุดยิงทันที เพื่อป้องกันการสู้รบเพิ่มเติม และเพื่อสร้างพื้นที่สำหรับการเจรจาอย่างสันติและการแก้ไขปัญหาทางการทูต ตนยินดีกับสัญญาณเชิงบวกและความเต็มใจของทั้งกรุงเทพฯ และพนมเปญ ในการพิจารณาแนวทางนี้ต่อไป มาเลเซียพร้อมที่จะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในกระบวนการนี้

ด้านสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรสนธิสัญญาระยะยาวของประเทศไทย เรียกร้องให้ยุติการสู้รบในทันที โดย ทอมมี พิกอตต์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น  และเสียใจอย่างยิ่งกับรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นกับพลเรือน สหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้ยุติการสู้รบโดยทันที คุ้มครองพลเรือน และแก้ไขความขัดแย้งอย่างสันติ

ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุปะทะทางทหารระหว่างกัมพูชาและไทย ซึ่งความตึงเครียดยังคงยืดเยื้อ ญี่ปุ่นขอเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายใช้ความอดกลั้นอย่างสูงสุด และหวังว่าทั้งสองประเทศจะคลี่คลายสถานการณ์ผ่านการเจรจาอย่างสันติ

ด้านองค์การยูนิเซฟประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก หรือ ยูนิเซฟ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างสูงสุด พร้อมทั้งเร่งดำเนินการปกป้องคุ้มครองเด็กและบริการพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับเด็ก ตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

2. กัมพูชา กล่าวหากองทัพไทยใช้ "ระเบิดพวง" โจมตี : กัมพูชากล่าวหากองทัพไทยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ด้วยการใช้ "ระเบิดพวง" โจมตี

พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา กล่าวหาว่า กองทัพไทยใช้อาวุธหนักและระเบิดพวง (Cluster Munitions) โจมตีพื้นที่ 7 จุดของกัมพูชา ซึ่งระเบิดพวงถูกห้ามใช้งานด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ โดยกัมพูชากล่าวหาว่า ไทยก่อ "อาชญากรรมสงคราม" และกระทำการที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

ก่อนหน้านี้ หน่วยงานช่วยเหลือเหยื่อและปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งกัมพูชา (CMAA) ก็ออกแถลงการณ์ประณาม อ้างว่าเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ค.) ไทยใช้ "ระเบิดพวง" จำนวนมาก โจมตีพื้นที่ตามแนวชายแดนจังหวัดพระวิหารถึง 2 ครั้ง ในห้วงระยะเวลา 90 นาที ก่อให้เกิดอันตรายต่อชุมชนโดยรอบและถือเป็นการละเมิดบรรทัดฐานด้านมนุษยธรรมอย่างร้ายแรง

ด้านทางการท้องถิ่นของกัมพูชารายงานว่า มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 1 คน บาดเจ็บอีก 5 คน จากการสู้รบต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แต่ยังไม่มีรายงานยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลกัมพูชา
ขณะที่ ประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ที่บริเวณชายแดน ทั้งในจังหวัดอุดรมีชัย และจังหวัดพระวิหาร พากันอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง โดยประชาชนบางส่วนขนข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ขึ้นรถไถเพื่ออพยพกันตั้งแต่เช้ามืด บางก็ออกมาหาจุดกางเต็นท์พักแรมในจุดปลอดภัย

ส่วนที่กรุงพนมเปญ เมืองหลวงของกัมพูชา ประชาชนชาวกัมพูชาหลายร้อยคนพากันออกมาร่วมกันบริจาคเลือดเพื่อสนับสนุนกองทัพ โดยนายฮุน มานี รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และลูกชายของสมเด็จฯ ฮุน เซน เดินทางมาเยี่ยมผู้บริจาคเลือดด้วย นอกจากนี้ เขายังโพสต์ข้อความบนเฟสบุ๊ก ระบุว่า ภายใต้จิตวิญญาณรักชาติทำให้มีผู้สมัครใจออกมาบริจาคเลือดกันอย่างล้นหลาม

3. ฝรั่งเศส เตรียมรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ : ฝรั่งเศสเตรียมรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ของสหรัฐฯ ที่จะจัดขึ้นในเดือนกันยายนนี้ ฝรั่งเศสจะรับรองรัฐปาเลสไตน์อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะนับเป็นชาติแรกในกลุ่ม G7 ที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์

มาครงโพสต์ข้อความบน "เอ็กซ์" (X) ว่า ความจำเป็นเร่งด่วนในวันนี้ คือการยุติสงครามในฉนวนกาซาและช่วยเหลือประชาชนพลเรือน...เราต้องการให้หยุดยิงทันที ปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างมหาศาล...ชาวฝรั่งเศสต้องการสันติภาพในตะวันออกกลาง มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะพิสูจน์ว่าสันติภาพเป็นไปได้

มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ ปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อการประกาศของมาครง โดยการตัดสินใจที่ไม่รอบคอบนี้เพียงแต่ส่งผลดีต่อการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มฮามาสและทำลายสันติภาพ

4. ฟิลิปปินส์อ่วมอีกรอบ พายุ “ก๋อมัย” พัดถล่ม : อิทธิพลจากพายุ "วิภา" สร้างความสูญเสียให้กับฟิลิปปินส์ ไม่น้อย ล่าสุด พายุลูกใหม่พัดถล่มซ้ำ

แม้พายุ "วิภา" ไม่ได้ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ จนมีผู้เสียชีวิตถึง 7 คน ล่าสุด ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับพายุลูกใหม่ คือ พายุไต้ฝุ่น "ก๋อมัย" (Co-May) ได้พัดขึ้นฝั่งทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ ในช่วงเช้าวันนี้ (25 ก.ค.) ส่งผลให้ลมมรสุมมีกำลังแรงขึ้น ฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่น "ก๋อมัย" อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว