สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - เหตุการณ์กัมพูชาโจมตีไทย ทำให้จรวดตกใส่ร้านสะดวกซื้อ ภายในปั๊มน้ำมันที่จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อ 24 กรกฎาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันที 8 คน แต่สามารนำร่างออกมาได้เพียง 3 คน ล่าสุด เจ้าหน้าที่ EOD เข้าเก็บกู้ชิ้นส่วนจรวดที่ตกค้าง ก่อนลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตอีก 5 คน ออกจากจุดเกิดเหตุ
ช่วงเช้าเมื่อวาน เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ EOD ได้เข้าเก็บกู้ชิ้นส่วนจรวดที่ตกค้าง ภายในร้านสะดวกซื้อ บริเวณปั๊มน้ำมันอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ก่อนเปิดทางให้อาสาสมัครกู้ภัยเข้าลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตอีก 5 คน ออกจากจุดเกิดเหตุ
ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ไปเจอภาพสลดใจ เป็นร่างแม่และลูกกอดกัน แต่ด้วยความที่จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่อันตราย เสี่ยงถูกโจมตีซ้ำ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องรีบเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดไปตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีตามศาสนา
นายคมสันต์ ประชัน อายุ 40 ปี เผยยังทำใจรับความสูญเสียกะทันหันไม่ได้ ซึ่งครอบครัวต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักถึง 3 ชีวิต ได้แก่ ภรรยา ลูกสาว อายุ 15 ปี และลูกชายวัย 8 ขวบ
อีกคนที่สูญเสีย คือ ยายของน้องน้ำโขง เด็กชายวัย 8 ขวบ ถูกทหารกัมพูชายิงจรวดใส่บ้านพักที่จังหวัดสุรินทร์ จนเสียชีวิต ยายบอกว่า กำลังจัดเตรียมข้าวของเพื่ออพยพ จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนจรวดพุ่งมา รู้สึกตัวอีกทีเห็นภาพบ้านพังฝุ่นตลบ ก่อนเห็นร่างหลานชายเต็มไปด้วยเลือด
ความสูญเสียไม่ได้เกิดกับแค่พลเรือน ยังมีทหารกล้าที่พลีชีพปกป้องแนวชายแดนถึง 6 นาย หนึ่งในนั้นคือ พลทหาร วรัญชิต ยวงสุวรรณ หรือ พลทหารแม็ก
ทางครอบครัว ได้จัดบ้านที่จังหวัดนครพนม เพื่อประกอบพิธีรับร่างพลพลทหารแม็กกลับบ้านเกิดอย่างสมเกียรติ ในวันนี้
นางสาววลัยรักษ์ แม่ของพลทหารแม็ก บอกว่า ตอนแรกที่ทราบข่าวถึงกับเป็นลม เพราะตอนเช้าก่อนเกิดเหตุ ยังพูดคุยครั้งสุดท้ายกับลูกชายว่า ขอให้คุณพระคุ้มครอง ให้ดูแลตัวเองด้วย
เช่นเดียวกับ นางวิไล อายุ 58 ปี แม่ของ จ่าสิบเอ กธวัชชัย บุสภา หรือ จ่าโต๋ ทหารกล้าอีกนายที่พลีชีพ เผยทั้งน้ำตาว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ แต่ก็ภูมิใจที่ลูกชายได้ทำเพื่อชาติ
ขณะที่ ภรรยาของจ่าโต๋ บอกว่า มีลูกชายวัย 1 ขวบ กับจ่าโต๋ ช่วงประมาณ 04.00 น. วันที่ 25 กรกฎาคม สามีส่งข้อความบอกอยากได้รูปลูกชาย แต่ไม่ได้อ่าน กระทั่ง 09.00 น. ญาติแจ้งว่าสามีเสียชีวิต