สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - ขณะที่ชายแดนมีการปะทะกันระหว่างกัมพูชากับไทย ปรากฎว่าโลกโซเชียลก็ร้อนระอุไม่แพ้กัน เพราะเจอทั้งข่าวจริง ข่าวปลอม ปะปนกันเต็มไปหมด ตำรวจไซเบอร์ก็ออกมาเตือนเรื่องนี้
ตำรวจไซเบอร์ เตือนประชาชนหากเสพข้อมูลในโซเชียลฯ เรื่องสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ให้ใช้วิจารณญาณดี ๆ และขอให้ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ และสำนักข่าวที่น่าเชื่อถือได้เท่านั้น
ขอย้ำก่อนว่า ภาพที่นำมาเสนอ เป็นข่าวปลอมที่ถูกเผยแพร่ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและส่งต่อกันในโซเชียลฯ อย่างที่เผยแพร่ข้อมูลว่า ทหารไทยเสียชีวิต 40 นาย และถูกจับกุม 30 นาย เป็นข่าวปลอม
เช้าเมื่อวาน เวลา 09.25 น. บอกว่า ทหารไทยเข้ายึดปราสาทพระวิหารและวัดแก้วสิกขาคีรีสวาระได้แล้ว เป็นเฟกนิวส์
ซึ่งต่อมา กองทัพบกยืนยัน ไม่มีการโจมตีพื้นที่ปราสาทพระวิหาร กรณีที่มีรายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ทำหนังสือถึงองค์การยูเนสโก อ้างว่าฝ่ายไทยได้ใช้อาวุธยิงสนับสนุนในการปฏิบัติการทางทหาร ส่งผลให้ปราสาทพระวิหารเสียหาย จึงถือเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง
นอกจากนี้ยังมีข่าวปลอมบอกว่าไทยส่งโดรนไปกัมพูชา และกองทัพกัมพูชายิงเครื่องบินรบไทยตก ส่วนอีกข่าวบอกกองทัพกัมพูชาแข็งแกร่งมาก ผลักดันทหารไทยออกจากปราสาทตาควายได้ ซึ่งไม่ใช่
ยังไม่หมด มีเพจกองทัพภาคที่ 2 ปลอมออกมาหลายเพจ เปิดรับบริจาคเงินช่วยเหลือทหารชายแดนไทย
โดยเพจ กองทัพภาพที่ 2 โพสต์เตือน เจอแบบนี้ "มิจฉาชีพ 100%" ย้ำ กองทัพภาคที่ 2 ไม่มีนโยบายเปิดรับบริจาคหรือเรี่ยไรเงินทุกกรณี เพราะเป้าหมายงานตอนนี้ คือความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและการปกป้องอธิปไตยเหนือชีวิต
ที่มาเสนอแค่บางส่วน ข่าวปลอมมีเยอะมาก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ควรทำให้ติดตามข่าวสารจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้
เช่น กองทัพ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สื่อหลัก และหน่วยงานภาครัฐ ให้ใช้วิจารณญาณก่อนแชร์ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานการณ์อ่อนไหว และแจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ที่ www.thaipoliceonline.go.th หรือโทรสายด่วน 1441 ตลอด 24 ชั่วโมง