สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - วันที่ 3 ของเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังไม่สงบ เสียงปืน เสียงระเบิดดังขึ้นแต่เช้า จากความพยายามเข้าบุกชิงพื้นที่ของฝ่ายตรงข้าม
ชาวบ้านได้ยินเสียงระเบิด ดังแต่เช้ามืด
ไม่ทันได้รู้สึกง่วง ก็ตื่นเต็มตา กำลังเดิน ๆ อยู่ ก็ได้เสียงระเบิดใหญ่ ๆ แบบนี้ ชาวบ้านเริ่มไม่แน่ใจว่า ควรอยู่หรือควรไป นี่เป็นช่วงแรก ๆ ของเหตุการณ์ความไม่สงบวันที่ 3 ในจังหวัดอุบลราชธานี
จุดที่ทำเอาคาดไม่ถึงต่อมา คือ วิถีกระสุน กว่า 10 นัด ไปตกในพื้นที่ สปป.ลาว บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ฝั่งตรงข้ามกับจังหวัดอุบลราชธานี จนเพจฯ กองทัพภาคที่ 2 ต้องออกมาโพสต์ยืนยันว่า เป็นกระสุนจากฝั่งกัมพูชา พร้อมกับแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างยิ่ง ซึ่งทาง สปป.ลาว เอง ก็รับรู้และยืนยันตรงกันว่า ไม่ใช่กระสุนจากฝั่งไทย
ชาวบ้านหลบซ่อนใต้บังเกอร์ ได้ยินระเบิดใกล้
ที่สุรินทร์ ก็ไม่ต่างกันเท่าไร แม้ช่วงเช้าจะเงียบ แต่สาย ๆ จนถึงช่วงบ่าย ชาวบ้านจะได้ยิน เสียงที่ดังไกล ๆ และค่อย ๆ ใกล้ขึ้น ๆ เรื่อย ๆ จนต้องเรียกให้คนที่อยู่ด้านนอกเข้ามาหลบในบังเกอร์ เพื่อความปลอดภัย
ทีมข่าวฯ คุณก้อง เกียรติชัย บุญราโส ไปสำรวจจุดที่กระสุนปืนใหญ่ของกัมพูชาตกลงมาอยู่ใกล้ชุมชน แต่ไม่ใช่ช่องจอม เห็นทั้งร่องรอยบนพื้นดิน และสะเก็ดกระสุนที่กระเด็นไปโดนต้นไม้โดยรอบ จุดนี้มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บหลักฐานไปหมดแล้ว และชาวบ้านยังเล่าวินาทีเฉียดตายให้ฟังด้วย
อีกจุด ที่ดุเดือดไม่แพ้กัน คือ บริเวณปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ที่ทำให้ทหารไทยต้องใช้เครื่องบินขับไล่ F-16 และกริพเพน ออกปฏิบัติการ รอบที่ 2 โจมตียุทธบริเวณ เพื่อทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา จนถูกพูดถึงในโซเชียลฯ ว่า ไทยเป็นประเทศแรกในโลก ที่ใช้เครื่องบิน "กริพเพน" ทิ้งระเบิด และกัมพูชา ก็เป็นประเทศแรกเหมือนกัน ที่ถูกทิ้งลูกระเบิดใส่ ทำให้เสียงปืนจากฝั่งกัมพูชา สงบลงไปพักใหญ่ ก่อนจะกลับมาดังขึ้นอีกรอบ แต่เป็นแบบประปรายเท่านั้น
