คนไทยแห่บริจาคโลหิตต่อเนื่อง

View icon 58
วันที่ 27 ก.ค. 2568 | 07.10 น.
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์
แชร์
สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - กัมพูชาพุ่งเป้า โจมตีพื้นที่ชุมชนของไทย กระทบ 4 จังหวัด มีชาวบ้านและทหารได้รับบาดเจ็บ ต้องการเลือดจำนวนมาก 

คนไทยแห่บริจาคโลหิตต่อเนื่อง
ที่ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ประชาชนไปบริจาคโลหิตกันล้นหลาม แม้จะมีประกาศว่า ปริมาณโลหิตสำรองมีเพียงพอแล้วสำหรับโรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาก็ตาม ข้อมูล ณ เวลา 16.00 น. ของเมื่อวาน (26 ก.ค.) มีผู้ไปบริจาคโลหิต 2,193 คน รวม รวมปริมาณโลหิตที่ได้รับ 1,979 ยูนิต จะส่งไปสมทบในพื้นที่ชายแดนฯ และกระจายไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศที่ขาดแคลนด้วย จึงยังสามารถบริจาคโลหิตได้ต่อเนื่อง 

หลายคนเปิดใจกับทีมข่าวว่า การมาบริจาคโลหิตครั้งนี้ ต้องการเป็นตัวแทน หรือหนึ่งกำลังใจเล็ก ๆ ของคนไทยส่งต่อไปให้คนในพื้นที่เสี่ยงภัยทุกคน 

เช่นเดียวกับโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี มีประชาชนจำนวนมากไปรอคิวบริจาคโลหิตตั้งแต่เช้า คาดมีเลือดสำรองเฉพาะเมื่อวานไม่ต่ำกว่า 300 ยูนิต 

ธารน้ำใจหลั่งไหลสู่ชาวบ้านและทหาร
ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดสี่มุมเมือง ขนผักต่าง ๆ พร้อมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และน้ำดื่มขึ้นรถบรรทุกไปส่งศูนย์พักพิงชั่วคราว ตามพื้นที่ชายแดน หวังให้ชาวบ้านที่อพยพได้กินอิ่ม มีกำลังใจมากขึ้น 

ยังมีภาพการส่งข้าวเหนียวหมูเป็นห่อ ๆ ไปให้ทหารชายแดนและชาวบ้านที่เดือดร้อน รวมถึงภาพการยกหม้อไปลวกบะหมี่ร้อน ๆ แจกชาวบ้าน ในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ด้วย 

ชื่นชม นายก อบจ.สละเงินเดือน ช่วยศูนย์อพยพ จ.ร้อยเอ็ด 
ชาวเน็ตยังพากันชื่นชม นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ประกาศมอบเงินเดือน ทั้งเดือนกว่า 70,000 บาท ให้ศูนย์ผู้อพยพทั้งหมด ถึงแม้ตัวเองมีหลายเรื่องที่ต้องใช้เงิน แต่คิดว่าที่ชายแดนมีความจำเป็นต้องใช้เงินมากกว่า จึงตัดสินใจสละเงินเดือน 

ขณะเดียวกัน กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร คณะสงฆ์เขตบางขุนเทียน และ ศิษยานุศิษย์ ที่นำเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น รวมถึงวัตถุมงคล มาให้ทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 2 ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดน มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีพลตรี นรธิป โพยนอก รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นตัวแทนรับมอบสิ่งของบริจาค 

สภาทนายฯ เล็งหาทางให้กัมพูชา ชดใช้ค่าเสียหาย
ด้านสภาทนายความ ได้ประสานไปยังประธานสภาทนายความในพื้นที่ 4 จังหวัด และกรรมการบริหารภาค ให้เตรียมรับเรื่องร้องทุกข์จากผู้ประสบภัยในพื้นที่เสี่ยง โดยใช้ประสบการณ์บริหารจัดการเหตุการณ์ใหญ่ เช่น เหตุโรงงานผลิตพลุระเบิดที่มูโน๊ะ, อาคาร สตง.ถล่ม มาให้คำปรึกษา และจะเร่งตั้งชุดศึกษาข้อกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อดูช่องทางเรียกร้องค่าเสียหายจากกัมพูชา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง