สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - อีก 1 จุดของไทย ที่กัมพูชา ต้องการขยายพื้นที่การสู้รบ คือ ชายแดนไทยด้านจังหวัดตราด แต่ถูกทหารไทยตอบโต้ จนต้องล่าถอย
ยุทธการ ตราดพิฆาตไพรี 1 ตอบโต้ผู้รุกรานอธิปไตยไทย จ.ตราด
เวลาประมาณ 05.00 น. วานนี้ (26 ก.ค.) มีเสียงปืนใหญ่ยิงมาจากเทือกเขาบรรทัด ถึง 2 นัด และข้ามเข้ามาฝั่งไทย ด้านจังหวัดตราด ทำชาวบ้านแตกตื่น ก่อนที่ทหารนาวิกโยธิน จะเปิดยุทธการตราดพิฆาตไพรี 1 ส่งทหารพรานภาคพื้นดินยิงตอบโต้ เข้าทำลายฐานที่ตั้งของทหารกัมพูชา ที่พบการรุกล้ำเข้ามา 3 จุด นอกจากนี้ยังส่งเรือรบ อีก 4 ลำ ออกลาดตระเวนควบคุมแนวทะเลอ่าวไทยด้วย
พบ โดรน บินวนเหนือแผ่นดินไทย
ในวันเดียวกัน มีรายงานการตรวจพบโดรน หรือ อากาศยานไร้คนขับ บินวนสำรวจพื้นที่ด้านอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราดโดยไม่ทราบฝ่ายและวัตถุประสงค์ จึงขอความร่วมมือชาวบ้าน หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
ส่วนฐานติดตั้งปืนกลหนักด้าน จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา ที่มีการติดตั้งเมื่อ 2 วันก่อน มีรายงานว่า ถูกรื้อถอนออกหมดแล้ว
ผ่อนปรนเปิดด่านฯ ให้ประชาชน 2 ประเทศ กลับบ้าน
สถานการณ์บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว พบว่า ประชาชนทั้ง 2 ประเทศ เริ่มคลายความกังวลและลดความแตกตื่นกันแล้ว จากเฟกนิวส์ต่าง ๆ แต่ก็ยังมีประชาชนทั้ง 2 ประเทศ สมัครใจที่จะเดินทางกลับประเทศตัวเอง
เจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ฝ่าย จึงตั้งโต๊ะเจรจา และยอมเปิดช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกเป็นการชั่วคราว
นายสรวงศ์ เทียนทองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเจ้าของพื้นที่ เสนอแนะให้เจ้าหน้าที่ไทย เปิดช่องทางสื่อสารแบบเรียลไทม์ แจ้งข่าวสาร ป้องกันเหตุวุ่นวายระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศ
สำหรับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนไทยภาคตะวันออก ที่มีแนวเขตติดกัมพูชา ทางกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศกฎอัยการศึกในบางพื้นที่ เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย จังหวัดจันทบุรี ได้แก่ อำเภอเมืองจันทบุรี ท่าใหม่ มะขาม แหลมสิงห์ แก่งหางแมว นายายอาม และอำเภอเขาคิชฌกุฏ และจังหวัดตราด อำเภอเขาสมิง ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา