กต.เรียกร้องให้ประชาคมโลกระหว่างประเทศประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม เลวร้ายของกัมพูชา

กต.เรียกร้องให้ประชาคมโลกระหว่างประเทศประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม เลวร้ายของกัมพูชา

View icon 286
วันที่ 27 ก.ค. 2568 | 18.08 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
กต.เรียกร้องให้ประชาคมโลกระหว่างประเทศประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม เลวร้ายของกัมพูชา ซึ่งไม่อาจยอมรับได้ในระเบียบโลกที่ยึดที่กติกาและหลักนิติธรรม

วันนี้ (27 ก.ค.68)  นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงการณ์ว่า ฝ่ายไทยเจรจาสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ฝ่ายไทยย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยคาดหวังที่จะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชาในการยุติการใช้ความรุนแรง  โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจ ในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมที่จะหารือเพื่อร่วมกับกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนในการหยุดยิงตลอดจนการยุตติการประทะกันอย่างสันติวิธีและยั่งยืน

ประเด็นต่อมาคือการโจมตีเป้าหมายพลเรือน โดยกองกำลังกัมพูชาในแผ่นดินไทย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณตี 2 ของคืนที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีในหลายจุดตามแนวชายแดนของไทยครั้งหนึ่ง และยังคงดำเนินจนถึงตอนนี้ สะท้อน  ให้เห็นว่าฝ่ายกัมพูชาขาดความจริงใจในการยุติการใช้กำลัง ไม่มีความสอดคล้องระหว่างคำพูดกับการกระทำ หรือพูดอย่างทำอย่าง และที่สำคัญยังคงละเลยหลักการพื้นฐานของมนุษยธรรม โดยการโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมาย ความหมายคือโจมตีที่เป้าหมายที่เป็นพลเรือน สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับประเทศใดและในฐานะประเทศที่มีความรับผิดชอบจากแท้จริงต่อประชาคมระหว่างประเทศ ไทยเองก็ไม่สามารถเพิกเฉยกับการกระทำอันไร้มนุษยธรรมของกัมพูชา

ผมขอยกตัวอย่าง เหตุการณ์โจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมายที่กล่าวไปแล้ว สะท้อนถึงการเพิกเฉยต่อคุณค่าของความเป็นมนุษย์ของฝ่ายกัมพูชา เช่นการที่กัมพูชาตั้งฐานยิงอยู่ในบริเวณโรงเรียน บริเวณวัด บ้านเรือนของประชาชนของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการตอบโต้จากฝ่ายไทยอั นนี้ถือเป็นการใช้โล่มนุษย์หรือ Human shield อย่างชัดเจน

2.การโจมตีใส่โรงพยาบาลสนามของฝ่ายไทย รวมทั้งสถานพยาบาลอื่นๆ ทำให้การดูแลผู้บาดเจ็บ ทหารและพลเรือน โดยฝ่ายไทย ขอย้ำอีกครั้งว่าการกระทำของกองทัพกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมาไม่เป็นเพียงแต่เมื่ออธิปไตยและบูรณภาพของดินแดงของไทยเท่านั้น ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อกฎหมายระหว่างประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นกฎบัตรสหประชาชิหรือกฎหมายมนุษยชนระหว่างประเทศ 

ทั้ง 2 เหตุการณ์ข้างต้น ฝ่ายไทยมีหลักฐานชัดเจน ดังนั้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา วันที่ 27 กรกฎาคม กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกแถลงการณ์กรณีกัมพูชาใช้อาวุธร้ายแรงยิงเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนในดินแดนที่ จ.สุรินทร์ ทั้งยังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือน ข้อเท็จ โดยกล่าวหาว่าไทยเปิดฉากยิงก่อน

แถลงการณ์  1. ประเทศไทยขอประณามการกระทำอันร้ายแรงและการการละเมิดระหว่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างรุนแรงที่สุดและขอเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการโจมตีเป้าหมายพลเรือนในทันที การยุติการสู้รบไม่อาจเกิดขึ้นได้ ตราบใดที่กัมพูชา ขาดสุจริตใจอย่างร้ายแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชนและหลักการพื้นฐานของกฎหมายมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยขอสงวนสิทธิ์ในการป้องกันตนเองในข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ และดำเนินการตอบโต้ในลักษณะที่จำกัดเฉพาะเป้าหมายทางทหารเพื่อขจัดภัยคุกคามต่ออธิปไตแห่งดินแดนไทย

2.ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศประณามการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมและเลวร้ายเหล่านี้ของกัมพูชาซึ่งไม่อาจยอมรับได้ในระเบียบโลกที่ยึดที่กติกาและหลักนิติธรรม

ในวันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือถึงหน่วยงานสหประชาชาติอีก 2 ฉบับ ได้แก่ องค์กรทุนเด็กสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟและถึงข้าหลวงใหญ่มนุษยชนสหประชาชาติ OSCHR  เพื่อแจ้งกรณีการโจมตีตามแนวแสดงที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งการโจมตีอย่างรุนแรง ไม่เลือกเป้าหมายและละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศทำให้มีพลเมืองเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก  อีกทั้งอพยพออกจากพื้นที่ยังส่งผลให้ประชาชนออกจากบ้านเรือน คนเจ็บป่วยไม่สามารถรับรักษาพยาบาลได้ อีกทั้งปิดโรงเรียนสร้างความเสียหายให้เด็กในระยะยาว ในด้านสิทธิมนุษยชน  โดยเฉพาะสตรีเด็กและผู้พิการ

เพื่อเรียกร้องให้กัมพูชายุติการใช้กำลังที่ทำให้สูญเสียชีวิตและทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์โดยเฉพาะเด็กตกอยู่ในสภาวะเสี่ยงและบอบบางทันที  ฉบับที่สองถึงข้าหลวงใหญ่ สิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ OSCHR  เพื่อแจ้งการละเมิดอนุสัญญาต่างๆ ด้านมนุษยชน  โดยขอให้ OSCHR พิจารณาใช้อำนาจตามอาณั เรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำดังกล่าว

เรื่องถัดไปการบิดเบือนข่าวอย่างเป็นกระบวนการของกัมพูชา  ขณะที่มีแถลงฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธร้ายแรงโจมตีไทยในหลายพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย  ในขณะที่นำเสนอว่าตนเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบของประชาคมโลก แต่กลับดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลเท็จและและข้อมูลบิดเบือนว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างไม่หยุดหย่อน  ไม่เพียงเพื่อเป็นการปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริง แต่มุ่งหวัง บ่อนทำลายและภาพลักษณ์ของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ

อีกตัวอย่างที่ชัดเจนของการนำเสนอข่าวปลอมของฝ่ายกัมพูชาคือข้อกล่าวหากองทัพไทยได้รุกรานและสร้างความเสียหายให้ตัวปราสาทพระวิหารตั้งแต่แถลงการณ์ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม และล่าสุดวันนี้ 27 กรกฎาคม 2568 มีแถลงการณ์อีก 1 ฉบับขอเรียนข้อเท็จจริง ว่าเรื่องนี้เป็นการกล่าวหา ซึ่งไร้หลักหลักฐานและเป็นข้อมูลปลอมแปลงที่สร้างขึ้นเอง ไม่เป็นความจริงอย่างสิ้นเชิง