สถานการณ์ที่จังหวัดสุรินทร์ ยังตึงเครียด เสียงปืนใหญ่ดังเป็นระยะ ๆ ทั้งพระ และชาวบ้าน ต้องช่วยกันสอดส่อง ดูแลในพื้นที่รับผิดชอบ
วันนี้ ( 28 ก.ค.6 8) พื้นที่สีแดง อำเภอพนมดง จ.สุรินทร์ รักยังคงดังสนั่นต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ชาวบ้านอาสา ต้องตรวจตราอย่างเข้มข้น เพื่อเสริมแกร่งให้ชาวบ้านที่สอดส่องดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ หลังผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศเขตภัยพิบัติ เพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา อย่างใกล้ชิด ทีมข่าวเข้ามาสำรวจบ้านเรือนประชาชนในเขตพื้นที่สีแดงอำเภอพนมดงรัก พบว่าเงียบสงัด เพราะผู้คนอพยพไปตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้เข้าสู่วันที่ 5 ของการปะทะกัน ปัญหาที่พบตอนนี้คือสัตว์เลี้ยงที่ถูกปล่อยไว้ตามบ้าน เริ่มขาดแคลนอาหาร เพราะสถานการณ์ยืดเยื้อ โชคดีที่ยังคงมีผู้นำชุมชน ชาวบ้านอาสา และ ชรบ. ประจำหมู่บ้านคอยสอดส่องดูแล บ้านเรือน สัตว์เลี้ยงให้กับประชาชน
โดยในทุกวันชุดชาวบ้านอาสา จะกระจายกันตามจุดต่าง ๆ ของหมู่บ้าน เพื่อสอดแนม และตรวจสอบความเรียบร้อย ภายในหมู่บ้าน และจะมีฝ่ายเสบียงที่คอยนำอาหาร น้ำดื่มไปกระจายตามจุดที่กลุ่มชาวบ้าน อาสากลุ่มนี้อยู่ ซึ่งถือว่ามีความเสี่ยงที่สุด ที่จะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทยกัมพูชา
อีกจุดที่น่าห่วงคือวัดตามหมู่บ้าน ซึ่งจะมีบางวัดพระ ไม่ได้อพยพ เพราะต้องเฝ้าดูแล เช่นเดียวกับ ”พระครูพนมสุตาภรณ์“ ที่ต้องทำหลุมหลบภัยใต้กุฎิ เพราะจำเป็นต้องอยู่ดูแลความเรียบร้อยภายในวัด ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยที่ทำขึ้นมาเอง เอาไว้หลบยามฉุกเฉิน ซึ่งสามารถรองรับพระลูกวัด และชาวบ้านอาสาได้จำนวนหนึ่ง
โดยพระครูพนม ยอมรับว่ามีความกลัว แต่ก็ใช้ธรรมะข่มจิตให้ตื่นรู้ และเข้าใจสถานการณ์ พร้อมสวดมนต์ภาวนาให้ทุกคนปลอดภัย รวมถึงทหาร ที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ก็ขอให้สัมฤทธิ์ผล
และสถานการณ์ครึ่งเช้า ยังได้ยินเสียงปืนปืนใหญ่ดังขึ้นต่อเนื่อง ความถี่ไม่ถึง 10 วินาทีต่อครั้ง ซึ่งต้องจับตาว่าหลังนายภูมิธรรม เวชยชัย ไปเจรจาที่มาเลเซียแล้ว เสียงกระสุนปืนใหญ่จะหยุดลงหรือไม่