เปิดชนวนเหตุ ชายคลั่งรัวยิง รปภ.-แม่ค้า ในตลาดสด ย่านจตุจักร เสียชีวิต 5 ศพ คาดฝังใจแค้น ที่เชื่อว่า รปภ.กรีดรถสุดหวงเป็นรอย ด้านภรรยาผู้ก่อเหตุเผย สามีเป็นอารมณ์ร้อน เวลาดื่มสุรา มักลงมือตบตี
วันนี้ ( 28 ก.ค.68 ) พล.ต.ท. สยาม บุญสม ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณี ชายคลั่งรัวยิง ใกล้จุดรับบริจาคสิ่งของ ส่งไปชายแดน ในตลาดสดชื่อดัง ย่านเขตจตุจักร ว่า ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ชายผู้ก่อเหตุ คือ นายน้อย ได้ก่อเหตุจี้แท็กซี่ จากบริเวณโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านเลียบด่วนรามอินทรา ให้มาส่งที่ตลาดสดจุดเกิดเหตุ และระหว่างอยู่ในรถ คนร้ายได้พูดกับคนขับแท็กซี่ ว่า “เดี๋ยวจะมายิง รปภ.ที่ตลาด” จากนั้นได้ใช้ปืนข่มขู่คนขับแท็กซี่ ให้มาส่งที่ตลาด และไม่ยอมให้จอดรถด้านอก บังคับบอกว่าให้ไปจอดบริเวณประตู 1 หลังจากที่ส่งแล้วคนร้ายได้ลงรถ และได้ใช้ปืนยิง รปภ. 3 คน จนเสียชีวิต
จากนั้นได้เดินตามหารปภ. คนที่ชื่อ นัน ที่ประจำการอยู่บริเวณป้อมหน้าอาคารของตลาด เมื่อผู้ก่อเหตุเห็นนายนัน ได้ใช้อาวุธปืนยิง จนเสียชีวิต จนกระสุนหมดแม็ก จากนั้นได้บรรจุกระสุนเพิ่มที่บริเวณป้อมป้อมยาม ก่อนจะเห็น รปภ.อีกคนเดินมา ก็ได้ก่อเหตุวิ่งไล่อีกรอบ และได้วิ่งเข้าไปก่อเหตุยิงในตลาด จนทำให้มีแม่ค้าเสียชีวิต 1 คน และได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน
เบื้องต้นมูลเหตุจูงใจ จากการสอบถามภรรยาของผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลพบว่า สามีโกรธแค้น บาดหมาง และฝังใจ กับ รปภ.ชื่อนัน มานานตั้งแต่ ปี 62 เกี่ยวกับเรื่องที่นำรถมาจอด ขณะมาขายของที่ตลาด แต่รถมีรอยขูด รอยกรีด ซึ่งสามีเป็นรักรถมาก และปักใจเชื่อว่า รปภ.ที่ชื่อนัน เป็นคนก่อเหตุกรีดรถ เวลาที่สามีเมาสุรา มักจะระบายให้ฟัง และภรรยาของมือปืน ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า สามีเป็นคนอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะเวลาดื่มสุรา มักจะลงมือทำร้ายภรรยาบ้างบางครั้ง
ประกอบกับจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ของตลาด พบว่าประมาณ 3-4 เดือนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุเคยโทรศัพท์มาร้องเรียน ในช่วงเวลาประมาณ 1-2 ทุ่ม แต่น้ำเสียงอยู่ในอาการมึนเมา ระบายความคับแค้นใจ เกี่ยวกับเรื่องของ รปภ. เพราะเชื่อว่า รปภ. เป็นคนก่อเหตุกรีดรถ ทางเจ้าหน้าที่ของตลาด จึงแนะนำให้มาร้องเรียนในช่วงเวลาราชการ หรือเวลาที่ไม่ได้ดื่มสุรา แต่หลังจากที่ทางตลาดทราบเรื่อง ได้มีการตรวจสอบ ก็พบว่ารถของผู้ก่อเหตุ มีร่องรอยการกรีดจริง แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าใครเป็นคนทำ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
ขณะนี้ตำรวจ สน.บางซื่อ อยู่ระหว่างนำตัวภรรยาของผู้ก่อเหตุ รวมถึงคนขับแท็กซี่ ไปสอบปากคำเพิ่มเติม