ไขคดี ยิงกลางตลาด อ.ต.ก.

สนามข่าว 7 สี - คดีสะเทือนขวัญกลางวันแสก ๆ มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน ถือปืนไปกราดยิง รปภ. และ แม่ค้า เสียชีวิต รวม 5 คน ก่อนยิงตัวเองเสียชีวิต ภายในตลาด อ.ต.ก. จตุจักร มีที่มาอย่างไรไปไล่เรียงกัน

คดีนี้เริ่มจาก เวลา 12.00 น. คนร้ายขึ้นแท็กซี่แล้วบอกกับคนขับรถว่า ไป "ตลาด อ.ต.ก." พร้อมชักปืนขึ้นมาขู่ แล้วบอก "จะยิง รปภ. อ.ต.ก.ให้ตายทั้งหมด"

เวลา 12.30 น. คนร้ายลงรถแท็กซี่บริเวณประตูใหญ่ ฝั่งองค์การตลาดเพื่อการเกษตร และเริ่มยิงนัดแรกใส่ รปภ. จากนั้นเดินไปตู้ ATM ธนาคาร  ธกส. บรรจุกระสุนเพิ่ม

ใช้เวลาก่อเหตุภายนอกอาคาร ประมาณ 30 นาที จากนั้นเข้าไปก่อเหตุภายในตลาด อ.ต.ก.

เวลา 13.00 น. เริ่มกราดยิงประชาชนภายในตลาด อ.ต.ก. ยิงแม่ค้าเสียชีวิต 1 คน

รวม ๆ ใช้เวลาก่อเหตุภายในตลาดประมาณ 30 นาที

สุดท้าย เวลา 13.30 น. คนร้ายยิง อัตตนิบาตกรรม ที่บริเวณม้านั่ง ภายในตลาด

หลังเกิดเหตุตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ ทราบชื่อ ผู้ก่อเหตุคือ นายน้อย อายุ 61 ปี ชาวจังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในตลาด ยืนยันว่า นายน้อย เป็นพ่อค้า มีแผงค้าอยู่ในตลาด อ.ต.ก. ที่ผ่านมาเคยมีปากเสียงทะเลาะกับ รปภ. บ่อยครั้ง เรื่องการจอดรถ และการนำรถเข้ามาภายในตลาด

ด้าน นางสาวแป๋ว ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่าตนเองกับสามีขายของแห้งอยู่ในตลอด และสามีมีความแค้นครั้งเก่าก่อนกับ "นายนัน" รปภ. ในตลาด จากปัญหาเรื่องถูกกรีดรถ ตั้งแต่ปี 2562-2563

หลังเกิดเหตุตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ก่อนสรุปปมเหตุเกิดจากความแค้นส่วนตัว ที่ผู้ก่อเหตุเคยเป็นพ่อค้าเก่าอยู่ในตลาด และขัดแย้งกับ รปภ.คู่กรณี ประกอบกับผู้ก่อเหตุมีอารมณ์รุนแรง ชอบทุบตีภรรยาเป็นประจำ ก่อนก่อเหตุก็ได้จี้รถแท็กซี่ให้มาส่งที่ตลาดเพื่อก่อเหตุ

พ่อค้าแม่ค้าที่อยู่ในตลาด อ.ต.ก. บอกว่า พอได้ยินเสียงปืน ก็พากันไปหลบในห้องน้ำนานนับชั่วโมง ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงปืนตลอด และผู้ก่อเหตุก็ยังมาเคาะประตูด้วย ก่อนจะกลับไปยิงร้านผัก จนมีแม่ค้าถูกลูกหลง

ส่วนคนขับรถแท็กซี่ที่รับคนร้ายมาจากแยกรัชโยธินมาที่ ตลาด อตก. ก่อนจะถูกคนร้ายใช้ปืนขู่บังคับให้เข้าไปด้านในตลาด ถูกนำตัวมาสอบปากคำ หลังสอบปากคำนานกว่า 5 ชั่วโมง เจ้าตัวบอกว่า ตอนลงจากรถเท้ายังไม่แตะพื้น ก็เริ่มยิงใส่ รปภ. ทันที ช่วงที่คนร้ายชักปืน ออกมาตนเองรู้สึกกลัว จึงปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อเตรียมหนี 

รองศาสตราจารย์ พันตำรวจโท ด็อกเตอร์ กฤษณพงค์ พูตระกูล หรือ ว่า "อาจารย์โต้ง" ในฐานะนักอาชญวิทยา วิเคราะห์ว่า คนร้ายเตรียมการมาล่วงหน้า ดูได้จากการเตรียมจำนวนกระสุน มีการหยุดบรรจุกระสุนเข้าแมกกาซีนปืน ที่ตู้เอทีเอ็ม ต้องใจเย็นมาก และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการก่อเหตุ ลักษณะนี้บ่งบอกถึงความตั้งใจและความคับแค้นของตัวผู้ก่อเหตุ 

อาจารย์โต้ง ยังบอกด้วยว่า ลักษณะประชาชนที่อยู่ในตลาด เมื่อคนร้ายกราดยิงชุดแรก หลายคนยังไม่รู้ตัว จนคนร้ายยิงรัวหลายนัดหลายคนเริ่มเอะใจ แต่ไม่วิ่งหนี ยืนดูจนคนร้ายมาใกล้ตัว ประเทศไทยจึงควรเริ่มปลูกฝังทักษะนี้ให้กับคนทุกเพศทุกวัยเหมือนกับที่ต่างประเทศทำ เพื่อลดความสูญเสีย และการรับมือสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง

จากการตรวจของเจ้าหน้าที่พบภาพถ่ายในอดีตคนร้าย คาดว่าเป็นภาพสมัยเกณฑ์ทหาร ซึ่งตรงกับการวิเคราะห์ของนักอาชญวิทยา และคำให้การของคนขับรถแท็กซี่ ที่บอกว่า คนร้ายมีการยิงแบบดับเบิ้ล ซึ่งเป็นแทคติคของคนที่มีความเชี่ยวชาญในการยิงปืน อาวุธที่ใช้ก็ค่อนข้างมีอำนาจการทำลายล้างสูง อาจมีการฝึกฝนใช้ช่วงที่ผ่านมา