ปลัดกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำเจ้าหน้าที่ปกครอง สร้างการรับรู้ประชาชน ยังไม่กลับเข้าพื้นที่จนกว่าจะได้รับการยืนยันจากทางราชการ ยอดผู้อพยพ 7 จังหวัดล่าสุด 1.88 แสนคน ใน 770 ศูนย์พักพิง
วันนี้ (29 ก.ค. 68) นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงจำนวนประชาชนผู้อพยพจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนผู้อพยพรวม 188,734 คน ใน 770 ศูนย์พักพิง ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ 82,021 คน 435 ศูนย์ จังหวัดสุรินทร์ 55,898 คน 130 ศูนย์ จังหวัดบุรีรัมย์ 24,480 คน 112 ศูนย์ จังหวัดอุบลราชธานี 21,838 คน 68 ศูนย์ จังหวัดสระแก้ว 2,652 คน 13 ศูนย์ จังหวัดตราด 1,621 คน 8 ศูนย์ และจังหวัดจันทบุรี 224 คน 4 ศูนย์
.
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เน้นย้ำผู้ว่าฯ 7 จังหวัดติดชายแดนกัมพูชา สั่งนายอำเภอสร้างการรับรู้ความเข้าใจกับประชาชน ให้ได้พักอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงไปก่อน จนกว่าจะได้รับการยืนยันด้านความปลอดภัยจากทางราชการ พร้อมทั้งดูแลในเรื่องการดำรงชีวิตในศูนย์พักพิง ทั้งด้านอาหาร น้ำดื่ม ข้าวของเครื่องใช้ ให้เพียงพอต่อการดำรงชีพ และประสานจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ได้เปิดศูนย์รับบริจาคสิ่งของ เพื่อขอรับการสนับสนุนให้ครบถ้วนเพียงพอ
"ทั้งนี้ หากได้รับการยืนยันจากฝ่ายความมั่นคงว่าสามารถกลับพื้นที่ภูมิลำเนาได้แล้ว ทางรัฐบาลจะได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพาพี่น้องประชาชนกลับไปยังภูมิลำเนาต่อไป" นายอรรษิษฐ์ กล่าว
ศบ.ทก.มท. สรุปข้อมูลจากสถานการณ์และการดำเนินการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจากความมั่นคงตามแนวชายแดน #ไทยกัมพูชา (ข้อมูล ณ วันที่ 29 ก.ค. 68 เวลา 08.00 น.) ดังนี้
พื้นที่ได้รับผลกระทบรวม จำนวน 7 จังหวัด 31 อำเภอ 23 ตำบล ครัวเรือน 257,410 ครัวเรือน (คิดเป็นประชากร จำนวน 769,192 คน )ผู้บาดเจ็บ 38 คนเสียชีวิต 14 คน
โดยศูนย์พักพิงฯ จำนวน 770 ศูนย์ มีผู้อพยพ จำนวน 188,734 คน
ขณะที่ การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จำนวน 6 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 23 อำเภอ 148 ตำบล 1,747 หมู่บ้าน
