ชาวบ้านสำรวจความเสียหาย ลูกปืนตกใส่บ้าน

ข่าวเย็นประเด็นร้อน - แม้ทหารไทย-กัมพูชา หยุดยิงตามข้อตกลง ตั้งแต่เที่ยงคืนตรง แต่มีเพียงบางจุดที่เสียงปืนเล็ดลอดออกมาจนถึงรุ่งเช้า ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดศรีสะเกษ ไม่ไว้วางใจ ยังคงอยู่ที่ศูนย์อพยพ มีเพียงบางคนกลับบ้าน ถึงกับตกใจทันทีที่เห็นร่องรอยความเสียหาย

นี่เป็นสภาพบ้านของ นายประยูร สิมมา อายุ 60 ปี ชาวอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ถูกลูกปืนใหญ่ยิงใส่ จนทำให้บ้านเสียหายเเทบไม่เหลือชิ้นดี ไม่ว่าจะเป็นผนังบ้าน หลังคา เฟอร์นิเจอร์ โอ่ง และยังพรากชีวิต นายสมศรี ลาภบุญ อายุ 59 ปี เพื่อน ไปต่อหน้าต่อตา 1 คน และ นายธนกร ทาน้ำเกลี้ยง อายุ 57 ปี ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

วันนี้ นายประยูร จึงเข้ามาตรวจสอบความเสียหายของบ้านอีกครั้ง หลังเหตุการณ์หยุดยิงของไทย-กัมพูชา ตั้งเเต่เที่ยงคืนตรง ซึ่งยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาเก็บกู้ เพราะเหตุการณ์ยังไม่สงบ ส่วนสภาพร่างกายตอนนี้ หูอื้อ ขาข้างขวาปวดบวม และยังกระทบจิตใจ เพราะมีภาพติดตาตอนลูกปืนใหญ่ลงต่อหน้า

ด้าน นายวีระยุทธ ดวงเเก้ว กำนัน เปิดเผยว่า แม้ตามข้อตกลงไทย-กัมพูชา ต้องหยุดยิงตั้งแต่เที่ยงคืนตรง แต่ยังได้ยินเสียงปืนกล ปืนเอ็ม 16 เป็นระยะจนถึงรุ่งเช้า และก่อนหน้า 1 วัน ก่อนจะหยุดยิง ยังมีลูกปืนใหญ่ตกที่สวน ห่างจากหมู่บ้าน 50 เมตร และมีวัวถูกสะเก็ดระเบิด 1 ตัว จนตายด้วย

ขณะที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ยังขอความร่วมมือให้ชาวบ้านอยู่ในศูนย์อพยพหรือพื้นที่ปลอดภัย จนกว่าจะเเน่ใจในสถานการณ์ จึงอนุญาตให้กลับบ้านได้

ส่วนที่จังหวัดบุรีรัมย์ บ้านหลายหลังหลังคาเรือนเสียหายจากการยิงถล่มของทหารกัมพูชา หนึ่งในนั้น คือ บ้านของ นายเสงี่ยม ตัวประโคน อายุ 64 ปี ถูกลูกจรวด BM 21 ยิงเข้ามาตกใส่หลังคาบ้านทะลุ จนฝังอยู่ใต้ดินภายในบ้าน

ตำรวจ EOD จึงต้องเก็บกู้ด้วยวิธีทำลายไปพร้อมกับบ้าน เพราะลูกจรวดฝังลึกใต้ดิน ประมาณ 5 เมตร ทำให้บ้านเสียหายครึ่งหลัง นายเสงี่ยม เจ้าของบ้าน จึงกังวลว่าจะไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา เพราะจนถึงเวลานี้ ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาสำรวจใด ๆ ตามที่นายอำเภอเคยเเจ้งไว้

ไปดูบรรยากาศบริเวณเส้นทางอำเภอกาบเชิงสู่ช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ พบเห็นรถของประชาชนขับผ่านไป-มา มากขึ้น เเม้เจ้าหน้าที่รัฐพยายามแจ้งเตือนทุกช่องทาง ยังไม่ให้ประชาชนเข้าพื้นที่

นอกจากนี้ จากการสำรวจของทีมข่าว พบว่ามีร้านค้าขนาดใหญ่ เปิดหน้าร้านไว้ ซึ่งเจ้าของร้านเข้ามาเพื่อตรวจเช็กข้าวของเท่านั้น หลังจากอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยตั้งเเต่สถานการณ์วันเเรก

เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย จึงปิดร้าน เเละกลับไปอยู่ที่ศูนย์อพยพเช่นเดียว พร้อมกับนำน้ำดื่ม ขนม และของกิน ฝากไปให้ทหารด้วย

ส่วนที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ นายเอกอนันต์ ศรีอินทร์ นายอำเภอพนมดงรัก ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสำรวจพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีกระสุนปืนใหญ่ตก จากการสำรวจมีวัดแห่งหนึ่งที่ได้รับความเสียหาย ทั้งหลังคาและผนังของอาคารที่พักสงฆ์

นอกจากนั้น ลูกกระสุนปืนได้ตกในพื้นที่ ไม่มีบ้านเรือนประชาชน โดยเบื้องต้นเป็นกระสุนปืนที่ตกเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ในช่วงเวลาประมาณ 11.00-13.00 น. โดยไม่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยหลังจากนี้ จะให้ผู้นำสำรวจความเสียหายโดยละเอียด เพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ

ขณะที่ชายแดนด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พบว่ามีชาวบ้านกลับเข้ามาในพื้นที่ หลังมีข่าวการเจรจาหยุดยิง ทางชุด ชรบ.หมู่บ้าน ต้องตั้งด่านห้ามไม่ให้เข้าพื้นที่ในช่วงนี้ และให้รอประกาศอย่างเป็นทางการจากภาครัฐก่อนเพื่อความปลอดภัย