สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ทรงเปิดงาน "ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย" ครั้งที่ 20 ประจำปี 2568

View icon 295
วันที่ 30 ก.ค. 2568 | 20.02 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 15.24 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ไปทรงเปิดงาน "ตรานกยูงพระราชทาน สืบสานตำนานไหมไทย" ครั้งที่ 20 ประจำปี 2568 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี  ในการนี้ พระราชทานรางวัลแก่ผู้ชนะเลิศการประกวดเส้นไหม ผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน และผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ประจำปี 2568 มี 26 ประเภท รวม 30 คน เพื่อเชิดชูเกียรติผู้ผลิตและผู้ประกอบการหม่อนไหม ที่ผ่านการรับรองตามมาตรฐานตรานกยูงพระราชทาน สร้างขวัญ กำลังใจแก่ผู้ผลิตงานคุณภาพ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมผ้าไหมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

กรมหม่อนไหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับส่วนราชการ และเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จัดงานนี้ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568 ที่ทรงสืบสานและทรงให้ความสำคัญกับผ้าไหมไทย, เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ้าไหมไทยคุณภาพ รวมถึงความรู้ด้านหม่อนไหม ภูมิปัญญาท้องถิ่น และนวัตกรรมด้านไหมไทยสู่สาธารณชน

ภายในงาน มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงส่งเสริม อนุรักษ์ และพัฒนาผ้าไหมไทย และพระราชทานสัญลักษณ์นกยูงไทย ให้เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทยในประเทศ เน้นแหล่งที่มาของวัตถุดิบ และกระบวนการผลิต ที่ต้องผลิตในประเทศไทยเพียงแห่งเดียวเท่านั้น เครื่องหมายรับรองตรานกยูงพระราชทาน มี 4 ชนิด ได้แก่ นกยูงสีทอง ใช้เส้นไหมและวัตถุดิบตลอดจนกระบวนการผลิตที่เป็นการอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้านดั้งเดิม, นกยูงสีเงิน เป็นผ้าไหมที่ยังคงอนุรักษ์ภูมิปัญญาพื้นบ้าน ผสมผสานกับการประยุกต์ใช้เครื่องมือและกระบวนการผลิตในบางขั้นตอน, นกยูงสีน้ำเงิน เป็นผ้าไหมที่ผลิตด้วยภูมิปัญญาแบบประยุกต์ ใช้เทคโนโลยีการผลิตเข้ากับสมัยนิยมและเชิงธุรกิจ, และนกยูงสีเขียว ที่ผลิตด้วยกระบวนการผลิตและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผสมผสานลวดลายและสีสันแบบภูมิปัญญาไทย

นิทรรศการทายาทหม่อนไหมในโรงเรียนและชุมชน, นิทรรศการนวัตกรรมด้านหม่อนไหมของกรมหม่อนไหม และการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น "มหัศจรรย์พันธุ์หม่อน–พันธุ์ไหม" กรมหม่อนไหม ได้พัฒนาสายพันธุ์หม่อน และพันธุ์ไหมอย่างต่อเนื่อง พันธุ์หม่อนที่เหมาะสมต่อการเลี้ยงไหมในปัจจุบัน คือ พันธุ์บุรีรัมย์ 60 ปลูกได้ดีในเขตชลประทาน ส่วนพันธุ์สกลนคร และสกลนคร 85 ปลูกได้ทั่วไป รวมทั้งพื้นที่นอกเขตชลประทาน, พันธุ์ไหมไทยพื้นบ้าน ที่เกษตรกรนิยมเลี้ยง ให้ผลผลิตสูง คือ ไหมพันธุ์ศรีสะเกษ 72, พันธุ์ไหมไทยลูกผสม คือ ไหมพันธุ์ J108 คูณนางลายสระบุรี, ส่วนพันธุ์ลูกผสม ที่ให้ผลผลิตสูง กำลังได้รับความนิยม คือ ไหมพันธุ์น่าน 72

นิทรรศการผลงานวิจัย เช่น กระบวนการเก็บรักษาดักแด้ไหมและผลิตภัณฑ์โปรตีนจากดักแด้ไหม, การสกัดโปรตีนจากรังไหม สร้างเป็นวัสดุชีวภาพทางการแพทย์ เพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยที่มีอาการเนื้อเยื่อข้อเข่าเสื่อม รวมถึงเครื่องสำอางและเซรั่มจากรังไหมที่สกัดด้วยเอนไซม์

รวมทั้งการออกร้านจำหน่ายผ้าไหมและผลิตภัณฑ์หม่อนไหมจากทั่วประเทศ กว่า 200 ร้านค้า มีผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ผ้าไหมลายอัตลักษณ์จากทั่วประเทศ สินค้าแปรรูปจากหม่อนและไหม สามารถเข้าชมงาน ได้จนถึงวันที่ 3 สิงหาคม 2568 ณ ฮอลล์ 6-7 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

ข่าวอื่นในหมวด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง