แรงงานกัมพูชาแห่กลับ กระทบภาคเกษตร ผู้ประกอบการ เกษตรกร วอนภาครัฐแก้ปัญหาใช้แรงงานชาว สปป.ลาวแทน
แรงงานกัมพูชาแห่กลับ กระทบภาคเกษตร ผู้ประกอบการ เกษตรกร วอนภาครัฐแก้ปัญหาด้วยการใช้แรงงานจากลาวแทน โดยนายวุฒิพงศ์ รันตมณฑ์ เจ้าของสวนผลไม้และธุรกิจแปรรูปผลไม้ ต.ทุ่งนนทรีย์ อ.เขาสมิง จ.ตราด เปิดเผยถึง สถานการณ์ตึงเครียดชายแดน และการปิดพรมแดนไทย-กัมพูชา ทำให้แรงงานกัมพูชาแห่กลับประเทศกัมพูชากันเกือบหมด แรงงานกัมพูชาบางสวนกลับกันหมด บางสวนกลับเกือบหมด จนทำให้ขาดแคลนแรงงานสำหรับทำสวน แม้ช่วงนี้จะหมดฤดูผลไม้ไปแล้ว แต่ยังต้องใช้แรงงานในการตัดแต่งฟื้นต้นไม้ให้สมบูรณ์ ทั้งการตัดหญ้า ใส่ปุ๋ย กำจัดแมลงและงานทั่วๆไปในสวน เมื่อไม่มีแรงงานกัมพูชาทำงานในสวน จึงต้องเดือดร้อนหาแรงงานอื่นทดแทน แรงงานไทยก็หายาก ต้องหันไปใช้แรงงานจากประเทศลาวแทน
นายวุฒิพงศ์ บอกว่า การใช้แรงงานจากประเทศลาว มีต้นทุนสูง ทั้งค่าเดินทาง ค่าเอกสารแรงงาน ค่าผ่านแดนและอื่นๆรวมแล้วตกคนละกว่าหมื่นบาท นายวุฒิพงศ์บอกว่าปัญหาดังกล่าวอยากให้รัฐบาล ทั้งกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศพร้อมหน่วยงานที่รับผิดชอบ ลงมารับฟังปัญหาของผู้ประกอบการ และเกษตรกรชาวสวน ให้ปรับลดอัตราค่าใช้จ่ายต่างๆลง หรือช่วยผ่อนผันให้ในช่วงวิกฤติปัญหาแรงงานช่วงนี้ แต่ทุกวันนี้ปัญหาต่างๆดังกล่าวไม่ได้รับการเหลียวแล เอาใจใส่จากรัฐบาลชุดนี้เลย ทั้งๆที่ภาคเกษตรมีส่วนในการสร้างรายได้ให้ประเทศไม่น้อยเลย
สำหรับแรงงานที่ยังไม่กลับประเทศกัมพูชา บอกว่าที่ยังไม่อยากกลับไปกัมพูชา เพราะว่ามาทำงานที่นี่ จนเหมือนเป็นบ้านหลังที่สอง มีความรัก ความผูกพันกับคนไทย และนายจ้าง และยังมีรายได้ส่งกลับไปกัมพูชาให้ครอบครัวได้อยู่สุขสบาย แรงงานบางราย อยู่นานจนมีครอบครัว มีลูกเรียนหนังสืออยู่เมืองไทย จึงไม่อยากกลับไปกัมพูชา แต่ช่วงนี้มีกระแสดราม่าและสื่อสารสร้างความเกลียดชังกันระหว่างคนไทยกับคนกัมพูชา ทำให้ตนเองก็อึดอัด ลำบากใจ และยังหวาดกลัวไม่ค่อยกล้าออกไปเที่ยวนอกบ้าน แม้แต่การไปซื้อสินค้าตลาดนัดหรือร้านสะดวกซือ้ก็เกรงจะถูกคนไทยด่าว่าและทำร้ายร่างกาย จึงอยากบอกคนไทยให้เข้าใจว่า พวกตนมาสร้างงาน สร้างรายได้ให้คนไทยในภาคเกษตร อย่าไปเหมารวมกับเรื่องของความขัดแย้งชายแดน ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แรงงานกัมพูชาพากันเดินทางกลับจนเกือบหมดดังกล่าว
