เวลา 08.56 น. วันนี้ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยังศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ทรงเปิดการประชุมวิชาการเฉลิมพระเกียรติ ในหัวข้อ "มิติใหม่การพัฒนายาชีววัตถุ : เพื่ออนาคตที่สดใสของประเทศไทย" ซึ่งสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ที่ทรงประสบความสำเร็จในการวิจัย พัฒนา และผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง "ทราสทูซูแมบ" ที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ภายใต้ชื่อพระราชทาน "HERDARA" ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างศักยภาพของประเทศไทย ในการพัฒนายาที่ไม่ต้องพึ่งพาการซื้อ หรือถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
โอกาสนี้ ทรงฟังบรรยายพิเศษในหัวข้อ "สดุดีพระเกียรติคุณ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี : บทบาทของประเทศไทยในยุคที่ยาชีววัตถุมีความสำคัญระดับโลก" โดยศาสตราจารย์ ราม ซาซิเซคาราน จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา และหัวข้อ "จากการเรียนการสอนสู่ห้องปฏิบัติการ: จุดเริ่มต้นของยาชีววัตถุในประเทศไทย" โดยศาสตราจารย์ จอห์น เอ็ม เอสซิกแมน จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งแมสซาซูเซตส์ สหรัฐอเมริกา เพื่อสดุดีพระปรีชาสามารถที่ทรงวางรากฐานการพัฒนายา ควบคู่ไปกับการพัฒนาบุคลากรให้ประเทศ
การประชุมฯ ครั้งนี้ เป็นการระดมผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลก ร่วมถ่ายทอดวิสัยทัศน์ด้านวิทยาศาสตร์และระบบกำกับดูแลยา รวมทั้งมีการเสวนาเชิงลึกโดยผู้เชี่ยวชาญจาก มหาวิทยาลัยทัฟส์, มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ในประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย บทบาทของชีววัตถุในการรักษามะเร็งแห่งอนาคต, แนวทางการเข้าถึงการรักษาโรคหายาก และการปฏิรูปการผลิตชีววัตถุในยุคใหม่ ซึ่งเป็นเวทีวิชาการครั้งสำคัญ ที่เปิดโอกาสให้นักวิจัย นักวิชาการ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันชั้นนำด้านยาทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ และความคิดเห็น และวิสัยทัศน์ในการพัฒนายาชีววัตถุ และการกำกับดูแลที่ทันสมัย เพื่ออนาคตที่ยั่งยืนของระบบสาธารณสุขไทยและของโลก
เวลา 15.52 น. เสด็จไปทรงเปิดอาคารศูนย์วิจัยและพัฒนาชีววัตถุ สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ซึ่งทรงก่อตั้งขึ้นเพื่อรองรับการวิจัย และพัฒนายาชีววัตถุอย่างครบวงจร ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมทั้งการพัฒนาที่นำไปสู่การใช้ได้จริง ควบคู่การพัฒนาบุคลากร ทั้งนักวิทยาศาสตร์ เภสัชกร และวิศวกรในสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการผลิตยาชีววัตถุของประเทศอย่างยั่งยืน รวมถึงเป็นศูนย์กลางความร่วมมือระดับนานาชาติ เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผ่านเครือข่ายมหาวิทยาลัยชั้นนำและอุตสาหกรรมยาชีววัตถุทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้คนไทยเข้าถึงยาที่จำเป็นในการรักษาโรคร้ายแรง เช่น มะเร็งได้
โดยเป็นอาคารสูง 3 ชั้น ประกอบด้วย สำนักงาน ห้องปฏิบัติการผลิตชีววัตถุ ห้องปฏิบัติการควบคุมคุณภาพ ห้องเก็บวัสดุที่มีมาตรฐานความสะอาดและปลอดภัยสูง ออกแบบให้รองรับการขยายสู่กระบวนการบรรจุในอนาคต เป็นอาคารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการตรวจรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้เป็นสถานที่ผลิตยาแผนปัจจุบันตามมาตรฐาน GMP เป็นการยกระดับมาตรฐานการผลิตยาให้ทัดเทียมสากล และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดแก่ประชาชน
โดยทรงเป็นนักวิจัยหลัก และทรงนำทีมวิจัยของสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ไปสู่ความสำเร็จในการพัฒนายาชีววัตถุคล้ายคลึง Trastuzumab ซึ่งใช้รักษามะเร็งหลายชนิด ได้รับการขึ้นทะเบียนตำรับยาจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ภายใต้ชื่อพระราชทาน "HERDARA" ในปี 2568 เป็นยาชีววัตถุชนิด Monoclonal Antibody ตัวแรกของประเทศ ที่วิจัยและพัฒนาโดยนักวิจัยไทยโดยไม่ได้อาศัยการซื้อหรือถ่ายทอดเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ทำให้ไทยสามารถพึ่งพาตนเองด้านยาได้อย่างยั่งยืน ด้วยทรงมุ่งมั่นและตั้งพระปณิธาน ในการส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีของประชาชน ทรงยึดมั่นตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระบรมชนกนาถ ในการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ทรงอุทิศพระองค์ศึกษาวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ ทั้งการศึกษาวิจัยจากผลิตภัณฑ์ธรรมชาติและพืชสมุนไพรไทย ยาเคมี ต่อยอดสู่การพัฒนายาชีววัตถุ ถือเป็นความหวังใหม่ของการรักษาโรคร้ายแรงและโรคอุบัติใหม่ในปัจจุบันและอนาคต พร้อมทรงวางรากฐาน "ระบบนิเวศแห่งการพัฒนายาชีววัตถุ" อย่างครอบคลุม