ความจริงที่ไทยอยากบอกนานาชาติ

สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ นำคณะนักการทูตและทูตทหารประจำประเทศไทย พร้อมด้วยสื่อมวลชน ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ชี้ให้เห็นว่าถูกกัมพูชาใช้อาวุธหนักโจมตี เป้าหมาย คือ พลเรือน และโรงพยาบาล

ความจริงที่ไทยอยากบอกนานาชาติ
ฝั่งกองทัพบกส่ง พลโท อานุภาพ ศิริมณฑล รองเสนาธิการทหารบก เป็นผู้แทนกองทัพ ร่วมคณะ ส่วนทางด้านกระทรวงการต่างประเทศ ส่ง นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ

โดยมีเอกอัครราชทูต และอุปทูตจาก 11 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ, จีน, บรูไน, ญี่ปุ่น, เมียนมา, มาเลเซีย, สปป.ลาว, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม และฟิลิปปินส์

ส่วนคณะทูตทหารจาก 23 ประเทศ ได้แก่ จีน, มาเลเซีย, ปากีสถาน, เกาหลีใต้, รัสเซีย, สิงคโปร์, เยอรมนี, อินเดีย, สปป.ลาว, แคนาดา, ฝรั่งเศส, สหรัฐอเมริกา, ฟิลิปปินส์, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, อิตาลี, เนเธอร์แลนด์, อินโดนีเซีย, สวีเดน, สวิตเซอร์แลนด์, บรูไน, ตุรกี และสหราชอาณาจักร ยังไม่รวมสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศ รวมกว่า 150 ชีวิต

ย้ำจุดยืนต่อนานาชาติ "กัมพูชา" ละเมิดข้อตกลง
เครื่องบินของคณะนักการทูต - ทูตทหาร ลงจอดที่จังหวัดอุบลราชธานี และฟังบรรยายการสรุป เพื่อเป็นการตอกย้ำว่า สิ่งที่กองทัพทำไปทั้งหมดเป็นการรักษาอธิปไตย และยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ มุ่งมั่งแก้ปัญหาโดยสันติมาตลอด ในทางกลับกัน ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุ ด้วยกิจกรรมทางทหารและพลเรือน นำมาซึ่งความตึงเครียดระหว่างทั้ง 2 ประเทศ

ตั้งแต่กัมพูชาพานักท่องเที่ยวขึ้นมาร้องเพลงปลุกใจในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม, เผาศาลาตรีมุข, ดัดแปลงภูมิประเทศแนวชายแดน, เริ่มเปิดฉากการยิง, รุกล้ำเข้ามาลักลอบวางทุ่นระเบิดในฝั่งไทย กระทั่งเกิดการปะทะ

ฝ่ายไทยนำคณะลงพื้นที่ไป ปั๊มน้ำมันที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ห่างแนวชายแดน ประมาณ 30 กิโลเมตร

ญาติผู้เสียชีวิต ร้องนานาชาติคืนความยุติธรรม
จุดแรกที่คณะทูตทหารลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย คือที่ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน ปตท. อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งถูกทหารกัมพูชาใช้เครื่องยิงจรวด BM-21 ตกใส่ วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 8 คน และบาดเจ็บ 10 คน ญาติผู้สูญเสียยืนถือรูปผู้เสียชีวิต พร้อมเล่าความจริงที่เกิดขึ้น จากการกระทำที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม

จุดสุดท้ายที่มาสังเกตการณ์ คือ ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นศูนย์ใหญ่ มีคนลงทะเบียนทั้งหมดกว่า 5,000 คน ตอนนี้เริ่มทยอยกลับบ้านแล้ว และเป็นอีก 1 จุด ที่คณะทูตให้ความสนใจ พูดคุยซักถามกับประชาชนในศูนย์พักพิงอย่างเป็นกันเอง 

ทั้งโฆษกและรองโฆษกคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. แถลงว่า หลังการลงพื้นที่พิสูจน์ข้อเท็จจริง ทำให้คณะทูตรู้แล้วว่าไทยเพียงแค่ปกป้องและรักษาอธิปไตยของตัวเอง ไม่ใช่เป็นฝ่ายรุกราน และยังแสดงความเห็นใจและเข้าใจว่าพลเรือนไทยตกเป็นเหยื่อ

คุม 20 ทหารกัมพูชา ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ
กองทัพยังใช้โอกาสนี้ชี้แจงกรณีควบคุมตัวทหารกัมพูชา 20 นายด้วยว่า เป็นการคุมตัวภายใต้ความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ ยังยืนยันด้วยว่าพื้นที่ช่องอานม้า เป็นดินแดนอธิปไตยของไทย และฝ่ายกัมพูชารุกล้ำเข้ามาก่อสร้างสิ่งปลูกสร้าง และนำประชาชนเข้ามาอยู่อาศัย อันเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ