เพื่อไทย สดุดีทหารกล้า ยืนยันไม่ละทิ้ง ปชช.

เพื่อไทย สดุดีทหารกล้า ยืนยันไม่ละทิ้ง ปชช.

View icon 279
วันที่ 3 ส.ค. 2568 | 12.31 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เพื่อไทย สดุดีดวงวิญญาณทหารกล้า ยืนยันไม่ละทิ้ง ปชช. จะผลักดันให้ความขัดแย้งกลับสู่โต๊ะเจรจา พร้อมสรุปมาตรการช่วยเหลือผู้เสียชีวิต –ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา

วันนี้ (3 ส.ค.68) นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงเรื่องเกี่ยวกับ สถานการณ์ความตึงเครียด จากการปะทะบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อปกป้องอธิปไตยไทย แม้สถานการณ์จะคลี่คลายลงจากการเจรจาให้ยุติการปะทะ แต่ความสูญเสียที่เกิดขึ้นนั้นไม่สามารถย้อนกลับได้  จากข้อมูลล่าสุดในวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 การปะทะส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิต 17 คน บาดเจ็บ 38 คน รวมผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด 55 คน และยังมีเจ้าหน้าที่ทหารผู้ปฏิบัติหน้าที่ต้องสละชีวิต 15 คน และผู้บาดเจ็บ รวม 196 คน

พรรคเพื่อไทยขอสดุดีดวงวิญญาณทหารกล้าผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละในการปกป้องอธิปไตยไทยจากการรุกรานของกัมพูชาและขอแสดงความความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ทุกคนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ หวังทุกภาคส่วนร่วมกันหยุดยั้งการกระทำครั้งนี้ยุติโดยเร็ว

พรรคเพื่อไทยยืนยันว่า จะไม่ละทิ้งประชาชนจะทำทุกทางเพื่อผลักดันให้ความขัดแย้งครั้งนี้กลับสู่โต๊ะเจรจาอย่างเป็นทางการเพื่อให้ความสูญเสียเช่นนี้ไม่ต้องเกิดขึ้นอีกในอนาคต ยืนยันพรรคเพื่อไทยจะไม่ละเลยต่ออธิปไตยของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน และศักดิ์ศรีของประเทศไทย

ส่วนการเยียวยาช่วยเหลือประชาชนจากวิกฤตในชายแดน ความคืบหน้าของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ในการดูแลที่ได้รับผลกระทบ 1. วิกฤตบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 2. สถานการณ์อุทกภัยในภาคเหนือ รัฐบาลยืนยันจะเดินหน้าฟื้นฟูเยียวยาป้องกันอย่างเร่งด่วน ภายใต้การประชาชนต้องมาก่อน

จากสถานการณ์ไทย-กัมพูชา  ทันทีที่เกิดขึ้น รัฐบาลได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทันทีผ่าน 5 กองทุน 1. กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท /ผู้ทุพพลภาพรายละ 7 แสนบาท /บาดเจ็บสาหัสรายละ 2 แสนบาท / บาดเจ็บมากรายละ 1 แสนบาท /และบาดเจ็บเล็กน้อยรายละ 5 หมื่นบาท 2. กองทุนยุติธรรม ของกระทรวงยุติธรรม 3. เงินเยียวยาจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 4. เงินช่วยเหลือจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กระทรวงมหาดไทย 5. ความช่วยเหลืออื่นๆตามสิทธิ จากกระทรวงต่างๆ

โดยกระทรวงการคลังได้ออกมาตรการเฉพาะในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ประชาชนผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ อาทิ การชำระหนี้ถึงสิ้นปี 2568 -การให้สินเชื่อต่ำและดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์-ธกส. จะให้สินเชื่อฉุกเฉิน สามารถติดตามรายละเอียดได้ในเพจของพรรคเพื่อไทย

ส่วนกรณีทหาร และ ตชด. ที่เสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่ ธกส. อนุมัติให้ยกหนี้ทั้งเงินต้นกับดอกเบี้ยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตโดยผู้มีสิทธิ์จะมีบิดา มารดา หรือคู่สมรส และการช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยและ SME ภาคเอกชนร่วมมือกันออกมาตรการพักหนี้ปล่อยสินเชื่อใหม่ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ขยายระยะเวลาในการชำระและ ให้ค้ำประกันวงเงินสูงสุด 10 ล้านบาท

ในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีจากกัมพูชา โดยเฉพาะสถานีให้บริการปั๊มน้ำมัน กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานการช่วยเหลือในทันที โดยธนาคารกรุงไทยได้ช่วยเจรจาเพื่อลดดอกเบี้ยหรือยกเว้นดอกเบี้ยชั่วคราว / บริษัทประกันภัยอยู่ระหว่างการดำเนินการจ่ายสินไหม / กรมธุรกิจพลังงาน และพาณิชย์ที่จังหวัด อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหายระบบหัวจ่ายน้ำมัน  /สำนักงาน แรงงานจังหวัดแจ้งสิทธิ์การเยียวยาให้กับลูกจ้าง / ผู้เสียชีวิตทั้ง 8 คน ขณะนี้ดำเนินการยื่นขอรับเงินช่วยเหลือสามกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยสาธารณภัยของสำนักนายกรัฐมนตรี

รัฐบาลส่งทีมวิศวกร และเจ้าที่โยธาและการผังเมือง ร่วมกับธนาคารของรัฐให้ดำเนินการสำรวจซ่อมแซมฟื้นฟูบ้านเรือน และกิจการของประชาชนที่เสียหายอย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกันการประชุม ครม. พิเศษ ซึ่งมีมติเห็นชอบมาตรการเยียวยาพิเศษเพิ่มเติมซึ่งพรรคเพื่อไทยจะติดตามรายละเอียดต่อไป