ที่หอประชุมโรงเรียนเดชอุดม อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โปรดให้ พลเอก ศิวะ ภระมรทัต กรมวังผู้ใหญ่ ประจำวังศุโขทัย เป็นผู้แทนพระองค์ เชิญถุงพระราชทาน จำนวน 40 ชุด ไปมอบแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ด้วยทรงห่วงใยผู้ประสบภัย ภายในถุงพระราชทานมีของใช้ที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเปราะบาง เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป และเสื้อผ้า ในการนี้ตรวจเยี่ยมศูนย์พักพิง ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้พิการ ในพื้นที่อำเภอเดชอุดม, อำเภอน้ำยืน, อำเภอน้ำขุ่น, อำเภอนาจะหลวย และอำเภอทุ่งศรีอุดม โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลน้ำขุ่น และโรงพยาบาลน้ำยืนให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
จากนั้นเดินทางไปยังหอประชุมที่ว่าการอำเภอเดชอุดม เชิญถุงพระราชทาน จำนวน 60 ชุด ไปมอบแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งอำเภอเดชอุดม ได้จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว 68 จุด รองรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก ซึ่งได้รับผลกระทบจากพื้นที่บริเวณช่องบก ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน พร้อมให้การดูแลกลุ่มผู้ป่วยฟอกไต จำนวน 60 คน มีแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรจากโรงพยาบาลในพื้นที่ให้การดูแล
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดตั้งโรงครัวพระราชทาน ประกอบอาหารปรุงสุกใหม่ แจกจ่ายให้กับประชาชน โดยมีจิตอาสาพระราชทาน 904 และประชาชนคอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่มารับอาหารพระราชทาน
จากนั้นเดินทางไปยังวิทยาลัยเทคนิคกันทรลักษ์ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เชิญถุงพระราชทาน จำนวน 100 ชุด ไปมอบแก่ประชาชน
อำเภอกันทรลักษ์ ได้รับผลกระทบ มีกระสุนตกบริเวณร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 คน ได้รับบาดเจ็บ 16 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน ทางจังหวัดฯ จึงประกาศให้ทั้ง 20 ตำบล 267 หมู่บ้าน เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย และอพยพประชาชนไปยังจุดรองรับผู้อพยพที่ปลอดภัย จำนวนกว่า 48,000 คน ใน 7 อำเภอ ซึ่งอำเภอกันทรลักษ์ มีจุดรองรับผู้อพยพ 38 แห่ง
ภายในศูนย์ฯ มีเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันดูแลประชาชน มีนักจิตวิทยาประเมินสภาพจิตใจ รวมทั้งจัดกิจกรรมดนตรี และวาดภาพระบายสีให้กับเด็ก
ในตอนบ่าย ผู้แทนพระองค์ เดินทางไปยังหอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เชิญถุงพระราชทาน จำนวน 100 ชุด ไปมอบแก่ผู้ได้รับผลกระทบ
จังหวัดสุรินทร์ ได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย 17 อำเภอ 140 ตำบล 1,854 หมู่บ้าน ประชาชนเสียชีวิต 6 คน ได้รับบาดเจ็บ 10 คน มีการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว จำนวน 98 ศูนย์ โดยประชาชนส่วนใหญ่อพยพเข้าพักที่ศูนย์พักพิง และบางส่วนไปพักอาศัยกับญาติในพื้นที่อำเภอต่าง ๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านช่วยรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ มีการจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน พร้อมกับพระราชทาน และประทานทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดนำไปช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย
จากนั้น เดินทางไปยังสนามช้างอินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ เชิญถุงพระราชทาน จำนวน 100 ชุด ไปมอบแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านกรวด, อำเภอละหานทราย และอำเภอเฉลิมพระเกียรติ รวม 17 ตำบล 229 หมู่บ้าน จัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดอพยพ จำนวน 116 แห่ง มีผู้ประสบภัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราวทั้งในจังหวัดและนอกจังหวัด จำนวน 74,919 คน ประชาชนเสียชีวิต 3 คน บ้านเรือนได้รับความเสียหาย 4 หลังคาเรือน และสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการให้ความช่วยเหลือและประเมินความเสียหาย
มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาจัดกิจกรรมร้องเพลงเต้นแอโรบิก เพื่อลดความเครียดให้กับผู้ประสบภัย มีกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน วาดภาพระบายสี และเล่นเกมทายคำให้กับเด็ก
โอกาสนี้ไปเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มเปราะบาง ณ ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ โรงพยาบาลบุรีรัมย์ โดยมีทีมแพทย์ พยาบาล และเภสัชกรจากโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง