มาริษ ย้ำทูต ตปท.ไทยมุ่งมั่นรักษาข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด

มาริษ ย้ำทูต ตปท.ไทยมุ่งมั่นรักษาข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด

View icon 96
วันที่ 4 ส.ค. 2568 | 14.38 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
"มาริษ" ย้ำทูต ตปท.ไทยมุ่งมั่นรักษาข้อตกลงหยุดยิงเคร่งครัด หวังแก้ปัญหาผ่านเจรจาทวิภาคี ไม่หวังกลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ และไม่รับอำนาจศาลโลก จี้กัมพูชาหยุดบินเบือนข่าวสารรายวันจนเป็นเรื่องปกติ หยุดยั่วยุบิดเบือนข้อมูล(IO)

วันนี้ (4 ส.ค.68) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นำบรรยายสรุปแก่คณะทูต และองค์การระหว่างประเทศที่มีสำนักงานในประเทศไทย เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กระทรวงการต่างประเทศ ในวันนี้ (4 ส.ค.) โดยมีตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ และองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วม จำนวนทั้งหมด 121 คน 74 ประเทศ 1 องค์กร 16 องค์การระหว่างประเทศ ประกอบด้วย  เอกอัครราชทูต 28 คน 27 ประเทศ 1 องค์กร, อุปทูตรักษาการชั่วคราวจาก 18 คน 18 ประเทศ, ผู้แทนจากสถานเอกอัคคราชทูต จำนวน 53 คน 49 ประเทศ 1 องค์กร หรือผู้แทนจากสหภาพยุโรป (EU), ผู้แทนจากสถานกงสุลใหญ่อาชีพ 1 คน 1 ประเทศ  และองค์การระหว่างประเทศ (21 คน 16 องค์การ) ซึ่งฝ่ายกัมพูชา ได้ส่งเลขานุการโทของสถานทูตมาร่วมสังเกตการณ์

โดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงให้นานาประเทศได้รับทราบข้อเท็จจริงต่อสถานการณ์ไทยกัมพูชา และรับทราบการดำเนินการ และท่าทีของไทย รวมถึงพัฒนาการที่สำคัญหลังกัมพูชา เปิดฉากการโจมตี และหลังการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งหลังจากนั้น ก็ยังพบการละเมิดข้อตกลงของกัมพูชาต่อพื้นที่ของไทยหลายครั้ง และละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับ โดยเฉพาะกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และอนุสัญญาอีกหลายฉบับ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำว่า ประเทศไทยไม่ได้ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา แต่เป็นที่น่าเสียหายที่ฝ่ายกัมพูชาได้เริ่มต้นความขัดแย้งก่อน ขณะที่ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก ได้ชี้แจงภาพรวมลำดับเหตุการณ์เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน และความคืบหน้าการจัดการประชุม JBC และ GBC ในอนาคต พร้อมชี้แจงจุดยืน และท่าทีของไทยในการดำเนินการลดความตึงเครียด และคลี่คลายปัญหาอย่างสันติ และอธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ได้ชี้แจงถึงการละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศ กฎหมายสิทธิมนุษยชน และมนุษยธรรมระหว่างประเทศ รวมถึงการบิดเบือนข้อมูลของกัมพูชา บนเวทีระหว่างประเทศ โดยได้นำเสนอข้อเท็จจริง และการประท้วงของไทยต่อกรณีดังกล่าวต่อพหุภาตีต่าง ๆ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชื่นชมบทบาทมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ที่ช่วยอำนวยความสะดวกจนบรรลุข้อตกลงการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา พร้อมขอบคุณสหรัฐฯ และจีน ที่สนับสนุนให้การหยุดยิงเกิดขึ้น แต่น่าผิดหวังฝ่ายกัมพูชา ยังคงละเมิดข้อตกลงการหยุดยิงหลายครั้ง หลายพื้นที่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการขาดความจริงใจ จึงขอให้กัมพูชาเคารพ และปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด และย้ำว่า ฝ่ายไทยยังมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี ผ่านการเจรจาแบบทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทย จะเข้าร่วมการประชุม GBC 4-7 ส.ค.ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ หรืออย่างสุจริต จริงใจ เพื่อให้เกิดการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และวางกลไกเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าว  พร้อมย้ำว่า การนำเสนอข้อมูลของฝ่ายไทย เน้นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้บนหลักวิทยาศาสตร์ มีหลักฐานเชิงประจักษ์ พร้อมเชื่อมั่นว่า การเจรจา จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน และต้องใช้ความจริงคุยกันบนพื้นฐานความสุจริตใจ แต่เฟคนิวส์ ไม่ได้ช่วยใด ๆ พร้อมขอวิงวอนให้คนไทย เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไตร่ตรองข้อมูลที่เชื่อถือได้จากหน่วยงานราชการ และขอให้มั่นใจว่า รัฐบาล จะดำเนินการอย่างเต็มที่ เพื่อปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ตลอดจนสิทธิ และความปลอดภัยของประชาชน

ส่วนกรณีที่โครงสร้างพื้นฐานไทยเสียหาย อย่างโรงพยาบาล ที่มีมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้น จะมีกฎหมายระหว่างประเทศที่บังคับให้กัมพูชารับผิดชอบมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า มีแน่นอน ที่ผู้กระทำผิดต้องชดใช้ ซึ่งอยู่ในวาระที่กระทรวงการต่างประเทศ กำลังดำเนินการคู่ขนาน เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายจากฝ่ายรุกราน ซึ่งมีมากกว่ามูลค่าความเสียหาย แต่ขณะนี้ มีลำดับความสำคัญกว่านั้น ในการเรียกร้องให้กัมพูชา เคารพคำพูดตัวเอง และข้อตกลงหยุดยิง หยุดปั่นข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน

ทั้งนี้ นอกเหนือการประชุม GBC ซึ่งเป็นกลไกระดับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งฝ่ายไทย ได้มีการจัดประชุมเตรียมการมาแล้ว 3 ครั้ง โดยคณะเลขานุการ GBC ได้เดินทางถึงมาเลเซียแล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการประชุมของฝ่ายเลขา จนถึงวันที่ 6 สิงหาคม ก่อนที่วันที่ 7 สิงหาคม จะมีการประชุม GBC สมัยพิเศษ ซึ่งมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วยเฉพาะการประชุม 7 สิงหาคมนี้เท่านั้น โดยประชาชนสามารถติดตามพัฒนาการการประชุมได้ ผ่านการแถลงข่าวของศูนย์ ศบ.ทก.รวมถึงจะยังมีกลไกการประชุม JBC ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ทีประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพ โดยหวังว่า กัมพูชาจะเข้าร่วมด้วยความจริงใจ และหาทางออกในประเด็นเขตแดนที่ยังคั่งค้างอยู่

นายมาริษ ยังย้ำจุดยืนของประเทศไทยว่า ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นเรื่องทวิภาคี และไทยไม่เห็นชอบต่อความพยายามใด ๆ ที่จะทำให้สถานการณ์นี้กลายเป็นประเด็นระหว่างประเทศ ซึ่งไทยได้ยืนยันในหลายโอกาสว่า ไม่ยอมรับเขตอำนาจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ICJ หรือ ศาลโลก และประสงค์ให้ข้อพิพาทนี้ได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาทวิภาคีภายใต้กรอบที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พร้อมยืนยันความมุ่งมั่นของไทย ที่จะหาทางออกอย่างสันติ และถาวรต่อข้อพิพาทวิภาคีนี้ โดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรอาเซียน และกฎบัตรสหประชาชาติ

นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้กัมพูชาเจรจาอย่างสันติด้วยความจริงใจและสุจริตใจ และหลีกเลี่ยงการกระทำยั่วยุทุกชนิด รวมถึงการบิดเบือนข้อมูลและการปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร (IO) ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลง และสุดท้ายและสำคัญที่สุดขอย้ำว่า นี่เป็นสถานการณ์ที่น่าโศกเศร้าอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นความขัดแย้งนี้ และขอย้ำว่า ความขัดแย้งกับกัมพูชาไม่ได้อยู่ในผลประโยชน์ของประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง