ลุ้นพรุ่งนี้ ภูมิธรรม เผย จ่อชง ครม.เพิ่มเงินเยียวยา ครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา สะพัดรายละ 8-10 ล้านบาท
วันนี้ (4 ส.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีออกประกาศห้ามบินโดรนทั่วประเทศ แต่ยังพบการฝ่าฝืน บินโดรนรุกล้ำแนวชายแดนประเทศไทยว่า เหมือนที่เราประกาศว่าห้ามมีโจร-ผู้ร้าย แต่โจรผู้ร้ายก็ยังทำอยู่ ผู้เกี่ยวข้องก็มีหน้าที่ติดตามจับกุม ซึ่งตนได้สั่งการไปที่ พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 แล้ววานนี้ (2 ก.ค.) ให้ประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้งหมด 10 จังหวัด เรื่องการฝ่าฝืนก็ว่ากันไปเป็นเรื่องของพื้นที่ ส่วนอำนาจในการจัดการดำเนินการก็มีหลายภาคส่วน
ส่วนการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดรายงานว่า “ทำแล้ว” แต่ขณะที่ สส.พรรคภูมิใจไทยออกมาระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัด ยังไม่สามารถเบิกงบเยียวยาได้ ทำให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย โทรศัพท์สอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ในทันที ซึ่งผู้ว่าฯ อุบลฯ ยืนยันว่าจ่ายหมดแล้ว ดังนั้น เรื่องข้อมูลตนมองว่า “ต้องฟังหูไว้หู เพราะเท่าที่ฟังขณะนี้ผู้ว่าฯ จ่ายเยียวยาหมดแล้ว แต่หากมีข้อมูลยืนยันว่าผู้ว่าฯ ไม่ทำก็ต้องรับผิดชอบ
เมื่อถามว่า จะขอดูงบประมาณที่เบิกจ่ายจริงหรือไม่ เนื่องจากมีการกล่าวว่าถึงเวลาแล้วไม่สามารถเบิกจ่ายได้ นายภูมิธรรม ย้ำว่า ”ถ้าทำไม่ได้ก็ให้คนอื่นมาทำแทนก็เท่านั้น”
จากนั้นนายภูมิธรรมได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปทันที ผู้สื่อข่าวพยายามถามกรณีการประชุมหารือของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา General Border Committee: GBC ระหว่างไทยกัมพูชาจะได้ข้อยุติหรือไม่ นายภูมิธรรม ไม่ตอบคำถาม
จึงถามย้ำกรณีการเยียวยาประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ได้มีการพิจารณาขยายเงินเยียวยาเพิ่มเติมแล้ว โดยก่อนหน้านี้ได้ข้อตกลงจากทางคณะกรรมการพิจารณาให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับเงินเยียวยา 1 ล้านบาท แต่พรุ่งนี้ (4 ก.ค.) จะนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อหารือ เรื่องจ่ายเงินเยียวยาเพิ่มเติม ซึ่งจะเป็นเท่าใดนั้นยังเปิดเผยไม่ได้ ขอให้รอฟังผลมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวจะอนุมัติเงินรายละ 8-10 ล้านบาท นายภูมิธรรม ย้ำคำเดิมว่า ขอให้รอมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี จะอนุมัติเท่าไหร่นั้น ตนยังไม่ทราบ