ชาวขอนแก่น ส่งแมสก์และแจ่วบองให้ทหารแนวหน้า 1,200 กระปุก พร้อมตั้งใจทำส่งให้ทุกอาทิตย์ เป็นเวลา 2 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
(4 ส.ค. 68) ที่กองอำนวยการ มลฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ กลุ่มชาวขอนแก่นรักชาติ ซึ่งประกอบด้วยพ่อค้า เจ้าของกิจการ กลุ่มนักธุรกิจ รวมถึงพประชาชนทั่วไป ร่วมกันนำแจ่วบอง(ปลาร้าสุก) จำนวนกว่า 1,200 กระปุก และหน้ากากอนามัยกรองกลิ่นจำนวน 2,950 ชิ้น ที่ได้จากการร่วมบริจาคเงิน สั่งร้านค้าผลิตน้ำพริกแจ่วบอง เพื่อส่งมอบไปถึงยังทหารที่ยังต้องตรึงกำลัง และใช้ชีวิตอยู่แนวหน้า ซึ่งทำการหุงหาอาหารทำกับข้าวไม่ค่อยสะดวก ทางกลุ่มจึงปรึกษากันว่าจะช่วยพี่น้องทหารที่อยู่ตามชายแดนยังไง จึงนึกถึงน้ำพริกแจ่วบอง ซึ่งเป็นอาหารที่สามารถรับประทานกับข้าวเหนียวได้สะดวก โดยมี พันเอกยุทธนา มหาวัน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 เป็นตัวแทนรับมอบ
ด้าน นายเข็มชาติ สมใจวงษ์ รองประธานหอการค้าขอนแก่น กล่าวว่า ครั้งนี้ชาวขอนแก่นได้รวมตัวกันอีกครั้ง เพื่อนำน้ำพริกแจ่วบองไปให้ทหารชายแดน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ทำมาอย่างต่อเนื่องเพื่อนำส่งไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พอตอนนี้เกิดเหตุในพื้นที่ภาคอีสาน จึงรวมกลุ่มชาวขอนแก่นรักชาติ จัดหาทุนเพื่อซื้อหาและจัดทำแจ่วบอง และสิ่งของอื่นที่จำเป็น โดยตั้งใจส่งมอบแจ่วบองสัปดาห์ละประมาณ 1,000 กระปุก และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง 2-3 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
นายเข็มชาติ บอกอีกว่า เหตุที่เลือกส่งแจ่วบองน้ำพริกอีสานส่งไปให้เพราะต่างคิดว่า เครื่องใช้ต่างๆ น่าจะพอเพียงระดับหนึ่ง และที่แนวรบมีทหารอีสานไปอยู่ที่ชายแดนคงมีความเหงา คิดถึงบ้าน และอยากทานอาหารอร่อยแซ่บๆที่คุ้นเคย จึงคิดกันว่าควรเป็นแจ่วบอง ทั้งยังพกพาสะดวก และถูกหลักอนามัย เพราะเป็นแจ่วบองพาสเจอร์ไรซ์ผ่านการทำสุกเรียบร้อย ตอกย้ำถึงกำลังใจจากคนอีสาน ทั้งนี้การส่งของจะฝากไปพร้อมกับรอบการเปลี่ยนกำลัง ทุก 7-10 วัน ผ่านหน่วยกำลังจากกองทัพภาคที่ 2 ที่ต้องหมุนเวียนกันไปปฏิบัติหน้าที่ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ
พร้อมกันนี้ขอเป็นตัวแทนพี่น้องชาวขอนแก่น รวมถึงคนไทยทุกคน ขอขอบคุณพี่น้องทหาร ที่ปฏิบัติหน้าที่ในแนวหน้า สิ่งที่แนวหลังทำถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการเสียสละของทุกๆ ท่าน จึงขอเป็นกำลังใจ และขอให้ปลอดภัยทุกคน เป็นการแสดงความขอบคุณจากแนวหลัง ให้กับผู้ที่เสียสละในพื้นที่ปะทะระหว่างไทยกัมพูชาที่ช่วงนี้ตกลงหยุดยิง แต่ทหารยังต้องตรึงกำลังไว้เพื่อป้องกันอธิปไตยของชาติ
ด้าน พันเอกยุทธนา มหาวัน รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 23 ตัวแทนทหารที่ออกมารับมอบ กล่าวขอบคุณน้ำใจของพี่น้องประชาชน พร้อมบอกว่าเป้าหมายสำคัญตอนนี้คือพลังสามัคคีที่เราแสดงออกมา ซึ่งการสู้รบที่ผ่านมาถือว่ารุนแรง ซึ่งแนวโน้มจะมีอีกรอบหรือไม่ก็ยังไม่สามารถทราบได้ แต่ไม่อยากให้ประชาชนเป็นกังวลเพราะทหารเรามีความพร้อม โดยเฉพาะการทำเพื่อชาติ บ้านเมือง เพื่อทุกคนที่อยู่แนวหลัง ถือเป็นงานในอาชีพ เป็นงานในอุดมการณ์ของทหารที่ต้องทำหน้าที่อยู่แล้ว และจะนำพาความห่วงใยนี้ส่งถึงพี่น้องทหารที่อยู่ตามแนวชาแดน เพื่อให้ทราบถึงความรักและความห่วงใยที่พี่น้องแนวหลังมีต่อทหารแนวหน้าทุกคน