เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชทานเพลิงศพ "จ่าสิบเอก อภิรมย์ ทรงพุฒิ" ทหารกล้าที่สละชีพปกป้องอธิปไตย
ภาพบรรยากาศ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จ่าสิบเอก อภิรมย์ ทรงพุฒิ หรือ จ่าแยม อายุ 31 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 8 กรมทหารราบที่ 3 ซึ่งจัดที่เมรุสีลวิสุทโธ วัดเนรมิตวิปัสสนา อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย
โดยมี นายทหารผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ เข้าร่วมพิธี เพื่อเป็นเกียรติแก่ จ่าสิบเอกอภิรมย์ ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในคืนปะทะก่อนถึงเส้นตาย 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา บริเวณจุดปะทะฐานปฏิบัติการตาฮอง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งคืนนั้น จ่าสิบเอกอภิรมย์ ถูกอาวุธสงครามได้รับบาดเจ็บสาหัส ขาขวาฉีกขาด เสียเลือดมากก่อนเสียชีวิต
เพื่อเป็นเกียรติอันสูงสุด สำหรับ จ่าสิบเอกอภิรมย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานผ้าไตร และภัตตาหาร 3 หาบ ในการเก็บอัฐิ จ่าสิบเอกอภิรมย์ ที่วัดเนรมิตวิปัสสนา จังหวัดเลย ในเช้าวันนี้ (5 ส.ค.) อีกด้วย
สำหรับ จ่าสิบเอก อภิรมย์ ทรงพุฒิ หรือ จ่าแยม เป็นหนึ่งในทหารกล้าที่สละชีพปกป้องอธิปไตย นอกจากได้รับการปูนบำเหน็จพิเศษเลื่อนยศ จาก จ่าสิบเอก เป็น พลตรี ยังได้รับเงินบำนาญตามระเบียบสิทธิกำลังพล สินไหมทดแทนจากภัยสงคราม
รวมทั้ง ครอบครัวยังได้รับเงินกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยจากรัฐบาล อีกจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งทาง นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรัฐบาล มอบเงินช่วยเหลือให้ครอบครัว
ญาติทำพิธีเก็บอัฐิ เหยื่อจรวดกัมพูชา จ.ศรีสะเกษ
ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากเมื่อวันก่อนได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน ถูกจรวด BM-21 ที่ทหารกัมพูชายิงตกใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั้มน้ำมัน
เมื่อวาน ครอบครัว และญาติ ๆ ร่วมกันทำพิธีเก็บอัฐิของผู้วายชนม์ทั้งหมด ที่วัดมหาพุทธาราม ท่ามกลางบรรยากาศยังโศกเศร้า
หนึ่งในญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ผ่านมาหลายวัน ยังรู้สึกเจ็บปวด ทำใจไม่ได้กับความสูญเสียที่ฝ่ายกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มโจมตีก่อน ทำให้ตนเองต้องสูญเสียคนรักทั้งลูกและหลานไปพร้อมกัน
