ทำสงครามข่าวสารในเชิงรุกบ้าง “นิพิฏฐ์” ส่ง จม. ถึงนายกฯ ขอให้ฟ้องผู้นำกองทัพเขมร อาชญากรสงคราม ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ เคยใช้ความรุนแรงกับพลเมืองของตัวเอง ตอนนี้มาสังหารพลเรือนไทย
วันนี้ (5 ส.ค.68) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ เปิดเผยว่าได้ส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรี ขอให้ดำเนินคดีอาชญากรสงครามกับผู้นำทหารของกัมพูชา เนื่องจากการสู้รบที่โจมตีพลเรือน เป็นเรื่องใหญ่มาก สังคมโลกไม่ว่าชนชาติไหน ไม่ควรมีผู้นำที่สังหารพลเรือน แม้การวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลก็ทำไม่ได้ จึงไม่มีเหตุผลใดที่สังคมโลกจะปกป้องผู้นำทหารแบบนี้ การนำผู้นำแบบนี้ขึ้นศาลศาลอาญาระหว่างประเทศจึงเป็นสิ่งที่“ต้องทำ”
นายนิพิฏฐ์ ระบุด้วยว่า ในอดีตผู้นำกัมพูชาก็สังหารพลเมืองของตัวเอง ครั้งนี้สังหารพลเรือนไทย เด็กของเราไม่ควรตายในอ้อมกอดแม่ในร้านสะดวกซื้อ เขาควรมีชีวิตที่เติบโต และ มีความสุขบนแผ่นดินของเขา จึงขอให้นายกฯ ใช้ภาวะความเป็นผู้นำปกป้องพลเรือน ด้วยการนำผู้นำกัมพูชาขึ้นศาลอาญาระหว่างประเทศ เสียดายที่นักการเมืองของเรา ไม่ใส่ใจเรื่องนี้ พร้อมเรียกร้องให้ทำสงครามข่าวสารในเชิงรุกบ้างเถิด จากนี้ ขอให้คนไทยช่วยกันติดตามว่ารัฐบาลจะทำหรือไม่
สำหรับเนื้อหาใจความในจดหมาย ระบุว่า ขอให้ดำเนินคดีอาชญากรสงครามกับผู้นำทางทหารประเทศกัมพูชา กราบเรียน นายกรัฐมนตรี ด้วยระหว่างวันที่ 24-28 ก.ค.68 ได้มีเหตุการณ์ปะทะกันด้วยกำลังทหารระหว่างกองกำลังทหารประเทศไทยและประเทศกัมพูชา บริเวณชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ระหว่างมีการปะทะกัน กองกำลังติดอาวุธของกัมพูชาใช้อาวุธยิงเข้ามาทำร้ายพลเรือนและโรงพยาบาล อันไม่ใช่เป้าหมายทางทหารเป็นเหตุให้พลเรือนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
การกระทำดังกล่าว ขัดต่อกฎหมาย ว่าด้วยมนุษยธธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law) และ อนุสัญญาเจนีวา (Geneva Conventions) ถือเป็นการกระทำผิดฐานอาชญากรสงคราม (War Crimes)เข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ (Crimes Against Humanity) เนื่องจากผู้นำกัมพูชาได้ก่อสงครามและใช้ความรุนแรงต่อพลเรือนมาตลอด ทั้งกระทำต่อพลเรือนของตนเอง เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พลเมืองชาติตนเอง และพลเรือนของต่างประเทศ ทำให้การอยู่ร่วมกันของประเทศที่มีชายแดนติดกันไม่มีความปลอดภัย เรื่องนี้สังคมโลกรับรู้เป็นอย่างดี
เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้นำทหารกัมพูชากระทำเช่นนี้ต่อพลเรือนในอนาคตอีก และเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อพลเรือนไทยที่บาดเจ็บและเสียชีวิต จึงขอให้นายกฯ ในฐานะผู้นำรัฐบาล นำกรณีการที่ผู้นำทหารกัมพูชาทำร้ายและสังหารพลเรือนไทยขึ้นดำเนินคดีต่อศาลอาญาระหว่างประเทศโดยดำเนินการผ่านสหประชาชาติ หรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือด้วยวิธีการอื่นใด ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ภายในเวลาอันรวดเร็ว
