โฆษก ทบ. มองเขมรมีนัยแอบแฝง เรียกร้องส่งเชลยศึก หวังทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายไทยในสายตาชาวโลก แต่ไม่เก็บศพทหารตกค้างกลับประเทศ เอาแต่บิดเบือนกล่าวหา ไม่เป็นสุภาพบุรุษ ไร้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้ที่เป็นทหาร
กัมพูชาพยายามเรียกร้องเรื่องการส่งตัวเชลยศึกกัมพูชา วันนี้ (5 ส.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เชื่อว่าความพยายามดังกล่าว มีนัยยะแอบแฝง หวังทำลายความน่าเชื่อถือฝ่ายไทยในสายตาชาวโลก แต่เชื่อว่าไม่มีผล เพราะไทยดำเนินการทุกอย่างไปตามกรอบกฎหมายและกติกาสากลอย่างเปิดเผยและตรงไปตรงมา ขณะที่ฝ่ายกัมพูชามีท่าทีย้อนแย้งกับความจริงที่ปรากฏหลายอย่างหลายประการ
โฆษกกองทัพบก กล่าวต่อว่า กรณีเชลยศึกกัมพูชา ฝ่ายไทยมีความจำเป็นและมีเหตุผลในการควบคุมตัว ตามกฏหมายสากลระหว่างประเทศและอนุสัญญาเจนีวา ด้วยการดูแลเป็นอย่างดี ที่ผ่านมาไทยยึดตามอนุสัญญาเจนีวาและหลักกติกาสากล ไทยได้ส่งกลับร่างทหารกัมพูชาอย่างเป็นทางการ จำนวน 18 ศพ ผ่านขั้นตอนที่ถูกต้อง ในลักษณะเป็นการให้เกียรติต่อผู้สูญเสีย ถึงแม้จะเป็นทหารกัมพูชาซึ่งอยู่ฝ่ายตรงข้าม
นอกจากนั้น เมื่อ 1 ส.ค.68 ฝ่ายไทยได้ส่งเชลยศึกกัมพูชา กลับอีก 2 คน ที่มีอาการบาดเจ็บและสติฟั่นเฟือน โดยไทยได้ดูแลรักษาพยาบาลเป็นอย่างดี ก่อนดำเนินการส่งกลับตามช่องทางอย่างถูกต้องตามอนุสัญญาเจนีวา กลับปรากฏว่าทางฝ่ายกัมพูชามีหนังสือการฟ้องสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ OHCHR ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศไทยจึงได้มีหนังสือถึง (OHCHR) ตอบโต้ประท้วงข้อกล่าวหาของฝ่ายกัมพูชาในทันที
โฆษกกองทัพบก กล่าวด้วยว่า กองทัพไทยจึงขอตั้งคำถามย้อนกลับไปที่ฝ่ายกัมพูชา ดังนี้
1.ในเรื่องของการจัดการศพของทหารกัมพูชาเองที่ตกค้างในพื้นที่การรบฝั่งกัมพูชาทำไมจึงไม่มาจัดเก็บ และจัดการให้เรียบร้อยถูกต้องตามหลักมนุษยธรรมสากล เพื่อให้เกียรติทหารของตัวเอง และคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ อย่างที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินการส่งศพทหารกัมพูชากลับโดยยึดถือและให้เกียรติในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในช่วงที่ผ่านมา
2.ตามมารยาททางการทูตและธรรมเนียมปฏิบัติที่ดีระหว่างประเทศ ถึงแม้ว่าไทยและกัมพูชาจะมีความตึงเครียดขัดแย้งกัน ต่อกรณีที่ฝ่ายไทยได้ดำเนินการส่งกลับศพ ทหารกัมพูชากลับไป 18 ศพ และส่งเชลยศึกกัมพูชากลับไปให้ 2 คน กลับไม่พบไม่เห็นฝ่ายกัมพูชามีท่าทีใด ๆ ที่แสดงออกว่าได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเหล่านี้ ไม่เคยแสดงความขอบคุณใด ๆ ให้กับฝ่ายไทย
โฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ในทางตรงกันข้าม กรณีส่งกลับ เชลยศึกกัมพูชา 2 คน ก็นำไปพูดบิดเบือนข้อเท็จจริง และกล่าวหาฝ่ายไทยในขณะที่ถูกควบคุมตัว ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่เลวร้าย ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไร้ซึ่งเกียรติและศักดิ์ศรีของผู้ที่เป็นทหาร
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (5 ส.ค.68) กองทัพบก กองทัพภาคที่ 2 และกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญ ICRC มาตรวจสอบสภาพความเป็นอยู่ และดูวิธีการปฎิบัติต่อเชลยศึกของฝ่ายไทย รวมทั้งจะได้พูดคุยกับเชลยศึกหมดทั้ง 18 คน เพื่อเป็นข้อพิสูจน์เชิงประจักษ์ว่าฝ่ายไทย ได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายระหว่างประเทศและอนุสัญญาเจนีวา ทุกขั้นตอนการดำเนินการมีลักษณะโปร่งใส พร้อมที่จะรับการตรวจสอบจากสังคมโลกได้ในทุกกรณี