ธงชาติไทยผืนใหญ่โบกสะบัดบนภูมะเขือ

View icon 120
วันที่ 6 ส.ค. 2568 | 07.11 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - สถานการณ์ในภาพรวมระหว่างไทย-กัมพูชา ยังอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ เนื่องจากยังอยู่ระหว่างการประชุม "จีบีซี" ซึ่งจะหารือระดับรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) แต่ทางการไทยยังคงวางกำลังตามแนวพื้นที่ปฏิบัติการตามแผน

ธงชาติไทยผืนใหญ่โบกสะบัดบนภูมะเขือ
ขณะที่เมื่อวาน (5 ส.ค.) พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมคณะ ได้ไปตรวจเยี่ยมกำลังพล บริเวณพื้นที่ปฏิบัติการของหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี และได้นำกำลังพลลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศ พร้อมกับสำรวจแนวที่มั่นเพื่อประเมินสถานการณ์

โดย แม่ทัพภาคที่ 2 ได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนธงชาติไทย ให้ผืนใหญ่กว่าเดิม จากนั้นได้ร่วมเคาพธงชาติบนยอดภูมะเขือ

เช่นเดียวกับ กองบัญชาการกองทัพไทย โพสต์ถึงคลิปดังกล่าวด้วยว่า การเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมขึ้นสู่ยอดเสา เพื่อให้ทุกสายตาบนแผ่นดินไทยและทั่วฟากฝั่งได้เห็นว่าที่นี่ คือ แผ่นดินไทย และกองทัพจะรักษาอธิปไตยนี้ไว้ด้วยชีวิต

และจากยอดเขาสู่ใจคนไทย ธงชาติไทยผืนใหญ่ที่โบกไสวอยู่ ณ ยอดภูมะเขือในวันนี้ จึงไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ของชาติเท่านั้น แต่คือความศรัทธา ความกล้าหาญ และการยืนยันอย่างหนักแน่นว่า บูรณภาพแห่งแผ่นดินไทย ไม่มีวันถูกท้าทาย

ขบวนรถไฟฟ้าธงชาติไทยแด่ทหารกล้า
Facebook "รถไฟฟ้าบีทีเอส" ได้โพสต์คลิปขบวนรถไฟฟ้าธงชาติไทย เพื่อร่วมแสดงพลังสดุดีวีรบุรุษไทย เหล่าทหารกล้าผู้เสียสละเพื่อปกป้องแผ่นดินไทย และอธิปไตยของชาติ ด้วยการ Wrap ขบวนรถไฟฟ้าเป็นผืนธงชาติไทย

ขบวนรถไฟฟ้าผืนธงชาติไทยจะให้บริการผ่านทั้ง 60 สถานี 3 จังหวัด พร้อมเผยแพร่ภาพธงชาติไทยผ่านสื่อโฆษณาดิจิทัลทั่วประเทศ ในช่วงเวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ทุกวันโดยพร้อมเพรียงกัน

จับตาทิศทางความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา
สำหรับสถานการณ์ในภาพรวมของไทย-กัมพูชา ปัจจุบันต้องรอดูการประชุม "จีบีซี" ระดับรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ซึ่งต้องติดตามข้อเสนอของทางการไทย 8 ข้อ ที่จะยื่นเข้าสู่ที่ประชุมฯ ว่าจะมีการตอบรับอย่างไรจากกัมพูชา

เมื่อวาน (5 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี ได้อ่านคำแถลงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยัน รัฐบาลยึดหลักสันติวิธี และหลักมนุษยธรรมมาโดยตลอด พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนคนไทยสามัคคีกัน เพื่อช่วยกันก้าวผ่านอุปสรรค

ทหาร 2 ฝ่าย เผชิญหน้ากันที่ ช่องอานม้า
เมื่อวาน (5 ส.ค.) มีสถานการณ์ที่บริเวณช่องอานม้า หลังกองร้อยทหารพรานที่ 2310 ตรวจพบกำลังทหารกัมพูชา 5 นาย เข้ามาดำเนินการตัดลวดหีบเพลง ซึ่งฝ่ายไทยได้วางไว้เพื่อเสริมความมั่นคงในพื้นที่เขตอธิปไตยของไทย บริเวณพื้นที่ตลาดช่องอานม้า 

เมื่อพบเหตุการณ์ดังกล่าว ฝ่ายไทยได้แจ้งให้ทหารกัมพูชายุติการกระทำดังกล่าว และถอยออกจากพื้นที่ทันที ซึ่งฝ่ายกัมพูชาได้ออกจากบริเวณดังกล่าว

หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ของไทยได้ดำเนินการวางลวดหีบเพลงกลับคืนสู่สภาพเดิม และยังคงตรึงกำลังอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ กระทรวงกลาโหมกัมพูชา กล่าวอ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา และอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพกัมพูชาอย่างสมบูรณ์ หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อเที่ยงคืนของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยเรียกร้องให้กองทัพไทยรื้อลวดหนาม และถอนเครื่องจักรออก

ด้าน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า "ช่องอานม้า" ซึ่งอยู่ในเขตอธิปไตยของประเทศไทย แต่ที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ที่กระทำการรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของไทย โดยฝ่ายไทยได้มีการยื่นหนังสือประท้วงในทุกระดับมาแล้วหลายครั้ง แต่ทางการกัมพูชายังไม่ดำเนินการแก้ไขใด ๆ

จากผลการปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ของฝ่ายไทย สามารถยึดและควบคุมพื้นที่ได้โดยสมบูรณ์ จึงดำเนินการเสริมสร้างความมั่นคง และจัดระเบียบพื้นที่ใหม่ โดยมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และใช้เครื่องจักรเข้าดำเนินการเคลียร์พื้นที่ เพื่อขจัดอันตรายจากทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาอาจลักลอบวางไว้ และยังตกค้างอยู่ในบริเวณดังกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง