สหรัฐฯ เริ่มโครงการนำร่อง เก็บ "เงินประกันวีซา" นักท่องเที่ยวและธุรกิจ จากบางประเทศ ในอัตราสูงสุดเกือบ 500,000 บาท เพื่อแก้ปัญหาชาวต่างชาติอยู่เกินกำหนด
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่า ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคมนี้เป็นต้นไป พลเมืองชาวแซมเบียและมาลาวี ที่ยื่นขอวีซาเข้าสหรัฐฯ เพื่อทำธุรกิจหรือท่องเที่ยว หากได้รับอนุมัติวีซาแล้วจะต้องชำระเงินประกัน ตั้งแต่ 5,000, 10,000 ถึงสูงสุด 15,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือตั้งแต่ประมาณ 165,000 บาท, 330,000 บาท จนถึงสูงสุด 495,000 บาท โดยจะให้อำนาจเจ้าหน้าที่กงสุลสหรัฐฯ กำหนดจำนวนเงิน ณ เวลาสัมภาษณ์ขอวีซา ซึ่งผู้ที่มาจากประเทศที่มีอัตราการอยู่เกินกำหนดวีซาสูง มีแนวโน้มถูกเก็บเงินประกันในอัตราสูงที่สุด แต่จะได้รับเงินประกันคืนหากเดินทางออกจากสหรัฐฯ ภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่หากละเมิดสถานะวีซาหรืออยู่เกินกำหนดก็จะถูกริบเงินประกันทันที ขณะที่ ทางการสหรัฐฯ จะมีการอัปเดตรายชื่อประเทศอื่น ๆ เพิ่มเติม
ขณะที่ มีทั้งผู้คัดค้านและเห็นด้วย โดยผู้ที่คัดค้านมองว่า อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของสหรัฐฯ ส่วนผู้สนับสนุนมองว่า เป็นหนึ่งในแนวทางแก้ปัญหาชาวต่างชาติเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า ผู้ถือวีซาชนิดเก็บเงินประกันจะต้องเดินทางเข้าและออกจากสหรัฐฯ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง 3 แห่ง ได้แก่ที่ สนามบินโลแกน เมืองบอสตัน, สนามบินนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี นครนิวยอร์ก และสนามบินดัลเลส กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยเตือนว่าหากเดินทางมาถึงหรือเดินทางออกจากที่อื่น อาจถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ หรือไม่ได้รับการบันทึกการเดินทางออกนอกประเทศ
ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งห้ามพลเมืองจาก 19 ประเทศเข้าสหรัฐฯทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ