ป้าวัย 59 ปี นอนเสียชีวิตภายในห้องพักมานาน 2 วัน ทางเพื่อนบ้านเผยปกติจะส่งข้อความสวัสดีตอนเช้าหากันทุกวัน แต่จู่ ๆ ไม่อ่านไม่ตอบ มารู้วันนี้ว่าเสียชีวิตคาห้องพักไปแล้ว ด้านลูกสาวคาด แม่โรคประจำตัวกำเริบ
วันนี้ (6 ส.ค. 68) พ.ต.ท.ภัทร์กร ชายน้อย รองสว.(สอบสวน) สภ.บางพลี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในห้องพักแห่งหนึ่งใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงประสานแพทย์นิติเวชสถาบันรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ และอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับฝ่ายสืบสวนของ สภ.บางพลี
ณ ที่เกิดเหตุภายในห้องพักพบร่าง หญิง วัย 59 ปี นอนหงายเสียชีวิตในสภาพขึ้นอืดอยู่บนที่นอน ในสภาพท่อนร่างเปลือยป่าว ส่วนท่อนบนใส่เสื้อยกทรงเพียงตัวเดียว โดยมีผ้าขนหนูปิดช่วงอกอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลจากการถูกทำร้ายร่างกาย
ส่วนสภาพภายในห้องไม่มีร่องรอยการลื้อค้นและไม่มีทรัพย์สินหายไป นอกจากนั้นยังพบ ซองยารักษาโรคประจำตัวของผู้ตาย วางอยู่ในห้อง คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 2 วัน เจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันที่เกิดเหตุเบื้องต้นและสั่งเก็บตัวอย่างคราบ DNA ในที่เกิดเหตุรวมถึงที่ตัวของผู้ตาย จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรหาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่นิติเวชสถาบันรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์
จากการสอบถาม น.ส.แก้ว เพื่อนบ้าน เล่าว่า ผู้ตายอาศัยอยู่เพียงลำพัง และทุก ๆ วันผู้ตายกับตนจะคอยส่งรูปภาพสวัสดีตอนเช้าให้กันและกัน เพื่อทักทายประจำวันกันมาตลอด ซึ่งล่าสุดคือวันที่ 4 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นวันต่อมาตนส่งภาพสวัสดีทักทายไปหา แต่ผู้ตายก็ไม่อ่านข้อความแต่อย่างใด ตอนแรกตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งมีคนโทรศัพท์มาบอกตนให้มาดูว่าใช้คุณป้าที่ส่งทักทายสวัสดีกันตอนเช้าทุกวันหรือไม่ จึงมาดูก็พบว่าเป็นคนเดียวกันจริง ตนยอมรับว่าตกใจเพราะเป็นคนที่ส่งข้อความสวัสดีทักทายกันทุกเช้า
ทางด้าน น.ส.ดา ลูกสาวของผู้ตาย (นามสมมติ) เล่าว่า แม่พักที่นี่เพียงลำพัง ส่วนตนอยู่กับแฟนที่ย่านลาดกระบังและนาน ๆ จะมาหาแม่ที่ห้อง ตนติดต่อพูดคุยกับแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 68 ที่ผ่านมา โดยแม่ไม่ได้บอกอะไร บอกเพียงแค่ว่าจะนัดกันไปซื้อหลอดไฟเท่านั้น กระทั่งวันนี้ตนติดต่อแม่ไม่ได้จึงเดินทางมาหาแม่ก็พบว่าประตูห้องถูกล็อก จึงใช้กุญแจที่ตนมีไขเข้าไปก็พบว่าแม่นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนแล้ว ตนไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่ามาจากโรคประจำตัวกำเริบ
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ฟันธงถึงสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้ อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุเพื่อตรวจสอบว่ามีบุคคลใดต้องสงสัยเข้าออกห้องพักที่เกิดเหตุหรือไม่ และจะต้องรอผลการชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งกับทางนิติเวช เพื่อสรุปสำนวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎมหายต่อไป