บก.ป.รับทำคดี หมอดูชื่อดัง ฉ้อโกง

View icon 85
วันที่ 7 ส.ค. 2568 | 07.31 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - ตามกรณีที่มีอินฟลูเอนเซอร์ หลายคนผลัดกันโพสต์เรื่องราวของ "หมอดู" ชื่อดัง กับปมเรื่องการเปิดรับเงินบริจาคให้กับ "วัดพระบาทน้ำพุ" จังหวัดลพบุรี ว่ามีอะไรที่ดูไม่ชอบมาพากล เรื่องนี้ไปถึงมือกองปราบฯ แล้ว ตำรวจรับสืบสวนดูว่า จะเข้าข่าย "ฉ้อโกง" หรือไม่

บก.ป.รับทำคดี หมอดูชื่อดัง ฉ้อโกง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตอบคำถาม หลังถูกถามเรื่องการแจ้งความดำเนินคดีกับหมอดูชื่อดัง ที่ถูกพูดถึงอยู่ในตอนนี้ ก็ยอมรับว่า มีคนมาแจ้งความกับตำรวจกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีฐาน "ฉ้อโกง" เงินประมาณ 900,000 บาท

เท่าที่ทราบ ชุดสืบสวนเริ่มรวบรวมพยานหลักฐานได้ส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นจะเรียกคนที่ถูกกล่าวหามาสอบปากคำ หรือแจ้งข้อหา แต่เท่าที่พอจะอธิบายได้ การจะเปิดรับบริจาคเงินอะไรก็ตาม หากเป็นเงินที่ให้วัดก็ต้องให้วัด ไม่สามารถนำไปใช้ส่วนตัวได้

เรื่องนี้น่าสนใจตรงที่อินฟลูเอนเซอร์หลายคน ออกมาโพสต์พฤติกรรมแปลก ๆ และความน่าสงสัยเกี่ยวกับการเปิดรับเงินบริจาค โดยเฉพาะ อาจารย์ตฤณท์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยา ที่โพสต์รัว ๆ เกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากล รวมถึง แพรรี่ ไพรวัลย์

ที่น่าสนใจมีการจับพฤติการณ์โดย เพจฯ เหยื่อ โพสต์ว่า "หมอดู" คนนี้เริ่มจากการเข้าไปอาสาวัดอย่างน้อย 2 แห่ง ว่าจะช่วยรับบริจาคนำเงินมามอบให้กับวัด ช่วงแรก ๆ จะเห็นการโพสต์บริจาค แล้วใช้บัญชีวัดในการรับเงิน

แต่หลัง ๆ กลับมีการเปิดบัญชีส่วนตัว ใช้ชื่อทำนองว่า "ถวายพระ ... โดยนาย ..." จึงตั้งคำถามว่า บัญชีวัดก็มี ใช้ของเดิมก็ดีอยู่แล้ว เพราะเหตุใดถึงมาใช้บัญชีส่วนตัว และมีการตั้งข้อสังเกตต่อไปถึงข่าวลือเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ ระหว่าง พระ กับ หมอดู

ไม่ว่าจะเป็นแบบ 70:30 หรือ 50:50 ซึ่งเรื่องนี้คงต้องเป็นหน้าที่ตำรวจต้องไปตรวจสอบ แต่ที่ชวนสงสัย เพราะหมอดูคนนี้ มีการนำเงินไปซื้อที่ดิน และบ้านพักราคาแพง จึงต้องตั้งคำถามว่าเอารายได้มากกว่า 50 ล้านบาท มาจากไหน

ผู้สื่อข่าวเราสอบถามเรื่องนี้กับ "ทนายเกิดผล" ที่เป็นลูกศิษย์ และเป็นทนายความให้กับวัดพระบาทน้ำพุ บอกว่า เรื่องนี้แดงขึ้นเพราะ เลขาฯ และคนใกล้ชิดของหมอดู ออกมาเปิดเผย และรวมตัวกันไปแจ้งความกับตำรวจกองปราบฯ โดยที่หลวงพ่อไม่ทราบเรื่องมาก่อน

หนึ่งในเรื่องที่เป็นประเด็น ยกตัวอย่างว่า มีการเบิกเงิน 1 ล้านบาท แต่กลับเอาไปถวายจริง ๆ แค่ 800,000 บาท ซึ่งคดีนี้มีการสอบปากคำผู้ร้อง และคนใกล้ชิดไปแล้ว 10 ปาก

เรื่องนี้น่าสนใจ เพราะมีข่าวว่า หลวงพ่ออลงกต ได้สั่งห้ามใช้ชื่อวัดเปิดบัญชีรับบริจาคอย่างเด็ดขาด แต่เมื่อวานเพจฯ ดาวแปดแฉก ก็ยังเอาสลิปการโอนเงินมาโชว์ให้ดู ว่า 15.30 น. เมื่อวานนี้ ก็ยังโอนเงินได้อยู่เลย

ทาง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี พร้อมเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี ไปที่วัดพระบาทน้ำพุ แต่ไม่พบ "หลวงพ่ออลงกต" เพราะติดกิจนิมนต์อยู่ที่กรุงเทพฯ มีแค่ไวยาวัจกร มาช่วยอธิบายเรื่องเส้นทางการเงินอยู่ประมาณ 1 ชั่วโมง

ก่อนสรุปได้ว่า ทาง ผอ.สำนักพระพุทธศาสนา ไม่ได้มาตรวจสอบอะไร แค่มาสอนการทำบัญชีการเงินของทางวัด ให้ตรงไปตรงมาเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับหมอดูคนที่ถูกพูดถึง เจ้าตัวยืนยันเรื่องนี้กับสื่อหลายสำนักว่า ตนเองไม่ได้ฉ้อโกง หรือเอาเงินบริจาคไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว รอให้รักษาตัวหายดีก่อน จะแถลงเรื่องนี้อีกที

"หลวงพ่ออลงกต" ตอบประเด็นคาใจเรื่อง "หมอดู"
พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เผยว่า หมอดูคนดัง มาขออนุญาตเปิดบัญชีใช้ชื่อตัวเอง เพื่อทำกิจกรรมอาสาให้กับวัดพระบาทน้ำพุ เมื่อปี 62 ซึ่งที่ผ่านมาทางเลขาฯ ของเขา มีการรายงานการเบิกจ่ายทุกครั้ง

แต่ลักษณะการทำงานของหมอดู ตัวอย่างเช่น หากมีเงินบริจาค 1 ล้าน ก็จะนำเงินสดมามอบให้ทางวัด 900,000 ซึ่งเงินจำนวนนี้นำใส่ถุงมาอย่างดี ส่วนจำนวนเงินอีก 100,000 ทราบว่าทางหมอดูจะนำไปทำโครงการจิตอาสา เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ตรงส่วนนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะเงินจะเข้าโครงการโดยตรง กรณีนี้ต้องให้ทางหมอดูเป็นคนชี้แจง

ส่วนบัญชีส่วนตัวที่ทางหมอดูเปิดไว้เพื่อระดมทุนหาเงินให้วัด บัญชีดังกล่าวตอนนี้ถูกระงับแล้ว การระงับไม่ได้หมายถึงการปิดบัญชี แต่หมอดูไม่สามารถเบิกจ่ายเงินจากบัญชีได้

ทางตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัด หลวงพ่ออลงกต บอกว่า ไม่ได้กังวลอะไรพร้อมให้ตรวจสอบ และวันนี้ทางคณะกรรมการวัด จะมีการประชุมกันเรื่องนี้ ก่อนจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้งที่วัดพระบาทน้ำพุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง