7 ส.ค. 68 ที่จุดผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ทหารพราน กองร้อยทหารพรานที่ 1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 ร่วมกับ จนท.ด่านศุลกากรอรัญประเทศฯ และเจ้าหน้าที่ ตม.จ.สระแก้ว ได้ร่วมกันตรวจชาวกัมพูชา ที่เดินทางกลับประเทศ และไขกุญแจเปิดประตูเล็ก ข้างด่านพรมแดนคลองลึกฯ เพื่ออนุโลมให้แรงงานชาวกัมพูชากว่า 300 คน พร้อมกระเป๋าสัมภาระ ที่ตกค้างอยู่ในประเทศไทยและต้องการเดินทางกลับกัมพูชา หลังมีข่าวลือว่ารัฐบาลกัมพูชาได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย รีบเดินทางกลับภูมิลำเนา หากใครไม่กลับภายในวันที่ 10 ส.ค. 68 อาจถูกถอนสัญชาติ และถูกยึดบ้านและที่ดิน ทำให้ชาวกัมพูชา เกิดความกลัวรีบเดินทางกลับประเทศ โดยมีการขนสัมภาระทั้งพัดลมและตู้เย็นกลับมาด้วย
นอกจากนี้ ก็ได้อนุโลมให้คนไทยกว่า 50 คน ที่ตกค้างอยู่ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ ซึ่งเป็นไปตามมาตรการอนุโลมเพื่อมนุษยธรรม ของกองกำลังบูรพา
ต่อมา เวลา 14.00 น.พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม. จว.สระแก้ว ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่สถานกงสุลใหญ่ไทย ประจำจังหวัดเสียมราฐ กัมพูชา ว่า สถานกงสุลใหญ่ไทย ได้ร่วมกับ ตำรวจกัมพูชา ได้ทำการกวาดล้างขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใน จ.เสียมราฐ และสามารถจับกุมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้หลายร้อยคน หลายสัญชาติ ซึ่งในจำนวนนี้มีคนไทยรวมอยู่ด้วยจำนวน 27 คน เป็นชาย 14 คน หญิง 13 คน ซึ่งหลังจากเสร็จสิ้น การดำเนินการของกัมพูชาแล้ว ได้นำคนไทยทั้ง 27 คนมาผลักดันกลับประเทศไทย ที่ จุดผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ในเวลา 14.00 น.
ต่อมา พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จว.สระแก้ว ร่วมกับ ร.อ.อาคม มงคลนำ ผบ.ร้อย ทพ.1201 และ จนท.สน.ปทก.(สำนักงานประสานงานชายแดนไทย-กัมพูชา) ได้ไปร่วมกันตรวจรับคนไทยทั้ง 27 คน ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
จากนั้น ได้นำตัวคนไทยทั้ง 27 คนมาทำการตรวจคัดกรองที่อาคารผู้โดยสารขาเข้าด่าน ตม.อรัญประเทศฯ ซึ่งจากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูล สตช.พบว่าคนไทยทั้ง 27 คน มีผู้ที่มีหมายจับร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์จำนวน 4 คน 4 หมายจับ และมีผู้ที่ถูกแจ้งความทางออนไลน์ (เคสไอดี) จำนวน 11 คน รวม 60 เคสไอดี จากนั้นได้นำตัวคนไทยทั้งหมดมาดำเนินการตามขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง และส่งตัวไปสอบสวนตรวจคัดแยกที่ศูนย์ NRM ที่ มณทลทหารบกที่ 19 ค่ายสุรสิงหนาท อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนส่งไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
