หมอบี ให้ปากคำมาราธอนกว่า 9 ชั่วโมง

View icon 97
วันที่ 8 ส.ค. 2568 | 07.09 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - เรื่องราวของ "หมอบี" จิตอาสาที่คอยช่วยเหลืองาน "วัดพระบาทน้ำพุ" ที่ถูกตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องการเปิดรับเงินบริจาคว่า มีการหักเปอร์เซ็นต์ไปใช้ส่วนตัวจริงหรือไม่ เจ้าตัวหอบหลักฐานชุดใหญ่เข้าพบตำรวจกองปราบฯ หลังจาก หมอบี ให้ปากคำกว่า 9 ชั่วโมง 

เริ่มจากฝั่ง "วัดพระบาทน้ำพุ" เมื่อวานนี้ หลวงพ่ออลงกต พร้อมด้วย นายเกิดผล แก้วเกิด ทนายความประจำวัด และตัวแทนเถรสมาคมพระสงฆ์จังหวัดลพบุรี ประชุมหารือประเด็นการเปิดรับบริจาคผ่านบัญชี "ใจฟ้าอาทรประชานาถ" ซึ่งมี หมอบี เป็นผู้ดำเนินการ ทางวัดมีมาตรการตัดไฟแต่ต้นลม ห้ามบุคคลภายนอกใช้ชื่อวัด หรือชื่อหลวงพ่ออลงกตเปิดบัญชี เพราะคือต้นตอของปัญหาทำให้ถูกมองว่าไม่โปร่งใส

ส่วนจุดที่ยังดูเหมือนลักลั่นกัน คือ เรื่องที่ หมอบี อ้างเหตุผลความจำเป็นในการต้องแบ่งเงินบางส่วน หรือโอนเงินที่ได้จากการเปิดรับบริจาค ไปจ่ายค่าอุปกรณ์ ค่าไถ่ชีวิตโคกระบือ โดยไม่ผ่านบัญชีวัดก่อน

"หลวงพ่ออลงกต" ยอมรับว่ารู้ เพราะหมอบีมักจะบอกว่า ต้องขอแบ่งเงินส่วนนี้ไปใช้ในโครงการไหน แต่มารู้ว่าเป็นปัญหาจริง ๆ เมื่อปี 2567 จากคนที่เคยร่วมงานกับ "หมอบี" ว่ามีการถวายเงินบริจาคไม่ครบ

จากการตรวจสอบของคณะกรรมการวัด พบว่า ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หมอบี มีการถวายเงินบริจาค ไม่สอดคล้องกับยอดเงินในบัญชีธนาคาร รวม 15 ครั้ง หายไปกว่า 5.4 ล้านบาท

ขาดไปมากที่สุด คือ 1 ล้านบาท จำนวน 3 ครั้ง และขาดไปครั้งละ 100000-300000 บาท จำนวน 6 ครั้ง  จุดนี้ทำให้คณะกรรมการวัดมีมติให้ตรวจสอบอย่างละเอียด

ด้าน ทนายเกิดผล แก้วเกิด บอกว่า ถ้าผลการรวบรวมพยานหลักฐานชัดเจนว่ามีเจตนายักยอกเงินบริจาคไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

อีกประเด็นที่มีกระแสโซเชียลฯ ตั้งข้อสงสัย ถึงขนาดที่ใช้คำว่า "คนในจังหวัดลพบุรีเขารู้กัน" ก็คือเรื่องการเข้าไปซื้อที่ดินหลายแปลง และการเอาญาติมาดูแลเงินให้กับ "วัดพระบาทน้ำพุ" คุณศราวุธ ผู้สื่อข่าวก็ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับชาวบ้าน ให้ความเห็นเรื่องนี้แตกต่างกันไป

สรุปได้ว่า 1.ชาวบ้านเชื่อว่า "หลวงพ่ออลงกต" ไม่เกี่ยวข้องกับการทุจริตแน่ ๆ 2.ยอมรับว่า สงสัยเรื่องการกว้านซื้อที่ดินนับพันไร่ ไม่รู้ว่าผิดวัตถุประสงค์ของเงินบริจาคหรือเปล่า และ 3.เรื่องญาติของหลวงพ่อ เคยได้ยินแต่ข่าวลือ แต่ไม่รู้ว่าร่ำรวยผิดปกติหรือไม่

เรื่องนี้ "หลวงพ่ออลงกต" ตอบเคลียร์ค่อนข้างชัด เรื่องญาติยุ่งเกี่ยวกับเงินวัด ปฏิเสธว่าไม่จริง และอยากรู้เหมือนกันว่าต้นตอเรื่องนี้มาจากไหน ส่วนเรื่องการซื้อที่ดิน ยอมรับว่าซื้อมาจริง แต่ไม่ได้ตัดสินใจเอง เป็นการตัดสินใจของคณะกรรมการ

และที่ซื้อมาก็มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าจะนำไปสร้างสาธารณประโยชน์ เช่น สร้างโรงเรียน ที่สำคัญชื่อผู้ครอบครองไม่ใช่ชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นชื่อ "วัดพระบาทน้ำพุ"

ทางคดี พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม กล่าวว่า เรื่องนี้มีผู้มาแจ้งตำรวจกองปราบตรวจสอบตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม ว่าพบข้อพิรุธของการเบิกถอนเงินออกจากบัญชีหมอบี

โดยเป็นบัญชีเปิดรับบริจาคผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งแต่ปี 2562 เป็นบัญชีประเภทในนามบุคคล ซึ่งหมอบีมีอำนาจในการเบิกถอนเพียงผู้เดียว และจากการตรวจสอบพบว่า มีการเบิกถอนกว่า 100 ครั้ง ยอดรวมกว่า 200 ล้านบาท และเงินจำนวนนี้มอบให้เจ้าอาวาสไม่ครบ

ส่วนกรณีอ้างว่าจะนำเงินไปสร้างสถานปฏิบัติธรรม แต่กลับไปซื้อที่ดินปลูกบ้านเป็นชื่อของตัวเอง อยู่ระหว่างการตรวจสอบ หากเงินพบว่านำเงินวัดไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็ผิดกฎหมาย เพราะบัญชีที่เปิดรับบริจาคให้กับวัด ต้องเข้าวัดทุกบาททุกสตางค์ 

ด้าน หมอบี ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามขณะเดินออกจากห้องสอบปากคำ หลังจากเข้าให้ปากคำตั้งแต่เวลา 14.00 น. วานนี้ ถึงประเด็นเรื่องการเปิดบัญชีรับบริจาคเพื่อมอบให้กับวัดพระบาทน้ำพุโดยใช้ชื่อตนเอง และหมอบีไม่ได้มามือเปล่า ยังหอบเอกสารปึกใหญ่มาด้วย ก่อนให้ปากคำแล้วเสร็จเวลาประมาณ 23.00 น. รวมระยะเวลาให้ปากคำประมาณ 9 ชั่วโมง
 
หมอบี บอกสั้น ๆ ว่า "ถ้าทำดี ทำด้วยใจบริสุทธิ์ มันไม่มีทางขัดกับกฎหมาย มันถูกต้อง" และระหว่างขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุที่เกิดขึ้นถูกกลั่นแกล้งเพราะเรื่องการเมืองภายในวัดหรือไม่ หมอบีไม่ตอบคำถามใด ๆ ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับออกไป

นอกจากนั้น ระหว่างที่ยังอยู่กองปราบ หมอบี ได้โฟนอินสัมภาษณ์กับรายการดัง ชี้แจงเรื่องเงินบริจาควัดว่าสาเหตุที่เบิกเงินสดใส่ซองถวาย หลวงพ่ออลงกต นั้น เพราะตั้งใจถวายหลวงพ่อโดยตรง ไม่ได้ถวายวัด