ค้นแหล่งผลิตเจลลี คุกกี้ผสมกัญชา ปลูก-ทำ-ขายออนไลน์ ดัดแปลงส้วมเป็นที่ผสมสูตร

ค้นแหล่งผลิตเจลลี คุกกี้ผสมกัญชา ปลูก-ทำ-ขายออนไลน์ ดัดแปลงส้วมเป็นที่ผสมสูตร

View icon 288
วันที่ 8 ส.ค. 2568 | 12.48 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ค้นแหล่งผลิตเจลลี คุกกี้ผสมกัญชา ปลูก-ทำ-ขายออนไลน์ ดัดแปลงส้วมเป็นที่ผสมสูตร ยึดของกลางกว่า 5 ร้อยชิ้น มูลค่ากว่า 9 แสนบาท

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บก.ปคบ. กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ปฏิบัติการตรวจค้นสถานที่ผลิตและจำหน่ายอาหารประเภทเจลลีและคุกกี้ผสมกัญชา ตรวจยึดเจลลี-คุกกี้ผสมกัญชา พร้อมทั้งช่อดอกกัญชาเตรียมส่งขายตามแพลตฟอร์มออนไลน์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.เฉลิม เจริญหิรัญวนิช สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก

พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากปรากฏข่าวตามสื่อสังคมออนไลน์ว่า มีเด็กอายุ 2 ขวบ รับประทานเจลลีแล้วทำให้มีอาการง่วงซึมและนั่งหลับตาตลอดเวลาจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการอย่างเร่งด่วน ทราบภายหลังว่าเจลลีดังกล่าว มีส่วนผสมของกัญชา ซึ่งแพทย์ผู้ทำการรักษาแจ้งว่ามีภาวะเปลี่ยนแปลงของระดับความรู้สึกตัวแบบฉับพลัน จากพิษของกัญชาและโพรงไซนัสอักเสบเฉียบพลัน กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคจึงมีการเฝ้าระวัง และตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหาร ขนมกลุ่มเสี่ยงที่อาจเข้าข่ายใช้กัญชาเป็นส่วนผสม

โดยจากการสืบสวนพบว่ามีแหล่งผลิตช่อดอกกัญชาแห้งและแหล่งจำหน่ายอาหารประเภทเจลลีและคุกกี้ผสมกัญชาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นแหล่งผลิตรายสำคัญที่มีการจำหน่ายช่อดอกกัญชาแห้งและผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเจลลีและคุกกี้ที่พร้อมรับประทาน โดยมีการโฆษณาจำหน่ายผ่านสื่อโซเชียลต่าง ๆ ซึ่งเจลลีลี่เป็นรูปหัวใจมีหลากหลายสีสัน เพื่อจูงใจกลุ่มผู้บริโภคมากขึ้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกนำหมายค้นของศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นอาคารบ้านพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร โดยมีการใช้อาคารบ้านพักอาศัยดัดแปลง เป็นสถานที่ปลูกต้นกัญชา เพื่อผลิตช่อดอกกัญชาแห้ง และแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเจลลีและคุกกี้ พบ นายสุทธิพล (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี เป็นผู้นำตรวจค้น

โดยขณะตรวจค้นพบว่า มีการใช้ห้องพักทั้ง 3 ชั้น ของอาคารดังกล่าวดัดแปลงเป็นสถานที่ปลูกต้นกัญชาเพื่อผลิตช่อดอกกัญชาแห้ง และมีการแบ่งบรรจุผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเจลลีและคุกกี้ที่มีส่วนผสมของกัญชา เพื่อจัดจำหน่ายให้กลุ่มวัยรุ่นทั่วไป อีกทั้ง มีการใช้ห้องส้วมในชั้นต่าง ๆ เป็นห้องสำหรับผสมและทดลองสูตรกัญชา ก่อนจัดจำหน่ายต่อไป โดยเน้นการขายส่งผ่านสื่อโซเชียลต่าง ๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น ซึ่งสถานที่ใช้ผลิตและจัดจำหน่ายไม่ได้รับอนุญาต และไม่ถูกสุขลักษณะอนามัย พร้อมตรวจยึดและอายัดผลิตภัณฑ์กัญชาและอาหาร จำนวนกว่า 481 ชิ้น มูลค่า 921,200 บาท ดังนี้
1. ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทเจลลีผสมกัญชา จำนวน 230 ชิ้น
2. ผลิตภัณฑ์อาหารประเภทคุกกี้ผสมกัญชา จำนวน 162 ชิ้น
3. ผลิตภัณฑ์ช่อดอกกัญชาแห้ง ถุงละ 100 กรัม จำนวน 35 ถุง
4. ต้นกัญชาที่มีช่อดอก จำนวน 54 ต้น

จากการสอบถาม นายสุทธิพลฯ รับว่าเป็นลูกจ้างมีหน้าที่ปลูกดูแลต้นกัญชาโดยมีการผสมสูตรและทดสอบช่อดอกกัญชาแห้งตามที่นายจ้างแจ้งไว้ก่อนใส่ถุงบรรจุจำหน่ายให้ลูกค้า โดยขายช่อดอกกัญชาแห้ง ถุงละ 100 กรัม ราคา 10,000 บาท รวมถึงมีการแบ่งบรรจุขายเจลลีที่มีส่วนผสมของกัญชาชิ้นละ 30 บาท และคุกกี้ที่มีส่วนผสมของกัญชาชิ้นละ 150 บาท โดยเปิดจำหน่ายมาแล้วประมาณ 2 ปี

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปคบ. จะได้ส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ตรวจยึด ส่งตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อยืนยันผลตรวจ หากพบสารที่เป็นอนุพันธ์ทางยาและสารเสพติดจะได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522ฐาน “ผลิต และจำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง” โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท หากตรวจพบยาแผนปัจจุบันหรือสิ่งเจือปนที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจัดเป็น “อาหารไม่บริสุทธิ์” โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 ฐาน “จำหน่ายสมุนไพรควบคุมโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายแพทย์สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขมอบหมายให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ติดตามและกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎหมายสมุนไพรควบคุมกัญชา ของร้านจำหน่ายกัญชา โดยเฉพาะในพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยมุ่งเน้นการป้องกันปัญหาด้านสุขภาพ การใช้กัญชาในทางที่ผิด รวมถึงการป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงกัญชา ตลอดจนควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการให้ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด โดยกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการดูแลสุขภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว เน้นย้ำ ขอให้ผู้ประกอบการทุกรายปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด  เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับทุกคนที่มาเยือนจุดหมายปลายทางยอดนิยมหลายแห่ง ของประเทศไทย การลงพื้นที่ดำเนินการทุกครั้ง ไม่เพียงแต่เป็นการบังคับใช้กฎหมาย แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า กระทรวงสาธารณสุขห่วงใยและไม่อยากให้เกิดการละเมิดกฎหมายที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสวัสดิภาพของสังคมไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง