ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อีก 2 สัปดาห์จะมีการพูดคุย RBC ระดับแม่ทัพทั้งสองฝ่าย เดินหน้าสู่สันติภาพ แต่จากการประชุมเมื่อวานนี้ที่มาเลเซีย มี 2 เรื่องที่กัมพูชาขอเลื่อนไปคุยครั้งหน้า
การประชุม GBC เมื่อวานนี้ ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน 13 ข้อ หลังจากนั้น พลเอก ณัฐพล นาคพานิช รมช.กลาโหม แถลงรายละเอียดหลัก ๆ คือ ข้อตกลงหยุดยิง ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ เลี่ยงการกระทำที่ยั่วยุ ปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด และรักษาช่องทางการพูดคุยกลไกทวิภาคีที่มีอยู่
แต่มี 2 เรื่องที่กัมพูชา ปฏิเสธการพูดคุยที่ทางการไทยเสนอไป คือ เรื่องการวางทุ่นระเบิดพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา และการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
สำหรับการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนหน้านี้ สหประชาชาติ (UN) ได้ออกมาชี้ชัดว่า กัมพูชากำลังกลายเป็นศูนย์กลางแก๊งอาชญากรรมไซเบอร์ และการหลอกลวงออนไลน์ระดับโลก เป็นวิกฤตการณ์ร้ายแรงส่งผลกระทบต่อผู้คนทั่วโลก
ส่วนกรณีที่กัมพูชาลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหาร PMN-2 ใหม่ บริเวณชายแดนไทยกัมพูชา จนทำให้ทหารไทยไปเหยียบขณะเดินลาดตระเวนในพื้นที่ของตัวเองจนขาขาด รวม 2 นาย ในพื้นที่ช่องบก และช่องอานม้า จังหวัดอุบลราชธานี ตามที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้
ไม่นับรวมที่กัมพูชาวางทุ่นระเบิดสังหารในพื้นที่การสู้รบ อย่างบริเวณรอบปราสาทตาควาย โดยมีหลักฐานสำคัญ คือ ภาพถ่ายของอินฟลูเอ็นเซอร์กัมพูชา กลายเป็นหลักฐานมัดตัวเอง
ด้าน พลโท ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เผยในรายการ ถกไม่เถียง เมื่อวานนี้ว่า เมื่อพูดถึงการเก็บกู้ทุ่นระเบิด กัมพูชาจะสะดุ้ง แตกต่างจากไทย ที่เราปฏิบัติตามกฎอยู่แล้ว ถ้าหากว่ากัมพูชารับข้อเสนอในการช่วยกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด เท่ากับเป็นการยอมรับว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายวางทุ่นระเบิดเอง สะท้อนให้เห็นว่า กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
