เวลา 09.03 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ในการนี้ ทรงวางพุ่มดอกไม้และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ พระอนุสาวรีย์จอมพล สมเด็จพระราชปิตุลา บรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระบิดาแห่งการไปรษณีย์ไทย
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องโถงไปรษณีย์นฤมิต ทรงเปิดงานแสดงตราไปรษณียากรภาคพื้นเอเชีย พ.ศ. 2568 ซึ่งประเทศไทย โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด และสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ ส.ต.ท. เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมและยกระดับการสะสมตราไปรษณียากรในประเทศแถบทวีปเอเชียและออสเตรเลียให้เป็นที่แพร่หลาย และเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบ 50 ปี ของสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์ฯ วันที่ 9 สิงหาคมนี้ ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด "From Bangkok to Beijing" ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยแลสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านความทรงจําในรูปแบบของตราไปรษณียากรและจดหมายแห่งมิตรภาพ เพื่อส่งเสริมการสะสมตราไปรษณียากรขั้นสูงสุดในระดับนานาชาติ
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการต่าง ๆ ประกอบด้วย นิทรรศการพรรณไม้พระนาม "คำหยาดศรีสิรินธร" ซึ่งเป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลกที่ค้นพบในประเทศไทย ได้รับพระราชทานนามจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี โดยได้จัดทำเป็นภาพบนแสตมป์ที่ระลึกของงาน
สาส์นจากฮ่องเต้ จดหมายยุคต้นว่าด้วยความสัมพันธ์จีน-ไทย จากจักรพรรดิเฉียนหลง ถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช, นิทรรศการการเดินทางของโพยก๊วน จัดแสดงเอกสารโพยก๊วนในอดีตอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี และเล่าเรื่องราวของ "ไปรษณีย์ที่ 8" ที่ทำการไปรษณีย์หนึ่งเดียวในไทยที่เปิดเพื่อให้บริการคนจีนโดยเฉพาะ
ในการนี้ ทรงลงพระนามาภิไธยบนแผ่นคำอวยพรและโปสต์การ์ด แล้วทรงส่งโปสต์การ์ดลงในตู้ไปรษณีย์ จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-จีน จัดแสดงประติมากรรมสัญลักษณ์ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน จากกระทรวงต่างประเทศ ภาพต้นแบบแสตมป์ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต ไทย-จีน
นิทรรศการ 50 ปี ส.ต.ท. จัดแสดงประวัติการก่อตั้งสมาคมฯ ตั้งแต่ปี 2502 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้ง จัดแสดงภาพถ่ายเก่าของศูนย์การส่งเสริมการสะสมตราไปรษณียากร กรมไปรษณีย์โทรเลข และสมาคมในยุคแรก ๆ ตลอดจน สิ่งแสดงจุลสาร เหรียญรางวัล ของที่ระลึกในโอกาสต่าง ๆ ในอดีต และกิจกรรมความร่วมมือกับสหพันธ์ตราไปรษณียากรระหว่างประเทศ และสมาคมนักสะสมระหว่างประเทศ
นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ "ด้วยพระเมตตาแห่งองค์อุปถัมภ์" จัดแสดงภาพตราไปรษณียากรภาพฝีพระหัตถ์, พระราชกรณียกิจด้านการสะสม ภาพถ่ายหรือวีดีทัศน์พระราชดํารัสเกี่ยวกับตราไปรษณียากร พระราชดํารัสที่กล่าวไว้ในอดีตเกี่ยวกับการสะสม รวมทั้ง จัดแสดงถ้วยรางวัลพระราชทานเพื่อพระราชทานให้แก่ผู้ชนะเลิศการประกวด จํานวน 3 รางวัล
นิทรรศการผลงานเกียรติยศจากสมาชิก FIAP (Grand Prix Club) และคอลเลกชันแสตมป์จากประเทศจีน ซึ่งจัดแสดงสิ่งแสดงเกียรติยศจากสมาชิกที่เคยได้รับรางวัลกรังด์ปรีซ์มาแล้ว ส่วนคอลเลกชันแสตมป์จากประเทศจีน ชื่อ ประวัติศาสตร์ที่ทําการไปรษณีย์มองโกเลีย คริสตศักราช 1854-1921 เป็นคอลเลกชันระดับคลาสสิกที่เคยได้รับรางวัลใหญ่ระดับนานาชาติมาแล้วหลายครั้ง
และนิทรรศการ "ที่ทําการไปรษณีย์สยาม นอกเขตประเทศไทย" ได้รวบรวมสิ่งของต่าง ๆ จากนักสะสมในประเทศ นํามาจัดแสดง ทั้งซองจดหมาย ไปรษณียบัตร โปสต์การ์ด กระดาษห่อพัสดุและสิ่งพิมพ์ ตราประทับของที่ทําการไปรษณีย์ที่ฝากส่งในช่วงเวลานั้น วิธีการส่งต่อผ่านเส้นทางไปรษณีย์ในอดีต จนถึงวันนําจ่ายถึงปลายทาง โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมงานฯ ได้จนถึงวันที่ 12 สิงหาคมนี้
เวลา 13.53 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปหอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประจำปีการศึกษา 2566
โดยสภามหาวิทยาลัยฯ มีมติทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาวิศวกรรมศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาวิศวกรรมเครื่องกล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงมีพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาสามารถอันสูงส่ง ในศาสตร์ด้านวิศวกรรมเครื่องกล และพระราชกรณียกิจที่ทรงบำเพ็ญที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่พสกนิกรและประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาภาษาศาสตร์ประยุกต์ แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ด้วยทรงมีพระอัจฉริยภาพด้านภาษาและการสื่อสาร ทรงใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศสได้อย่างดี และเหมาะสมตามบริบท แสดงถึงพระปรีชาสามารถในด้านการสื่อสารและการประยุกต์ใช้ความรู้ทางภาษา เพื่อประกอบพระราชกรณียกิจสำคัญต่าง ๆ จากนั้นผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ประจำปีการศึกษา 2566 ในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร จำนวน 2,523 คน
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ความสำคัญตอนหนึ่งว่า "บัณฑิตทั้งหลายคงจะทราบกันอยู่ว่า ปริญญาบัตรที่ได้รับในวันนี้ เป็นเครื่องรับรองวิทยฐานะของแต่ละคน ว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถด้านวิชาการในสาขาต่าง ๆ และแต่ละคนก็คงมุ่งหวัง ที่จะนำความรู้ความสามารถซึ่งตั้งใจอุตสาหะศึกษาเล่าเรียนมา ไปใช้ให้บังเกิดประโยชน์สูงสุด ทั้งในการประกอบอาชีพ การบำเพ็ญคุณงามความดี และการสร้างสรรค์ประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ ความมุ่งหวังดังกล่าวนั้น แท้ที่จริงก็คือหน้าที่และความรับผิดชอบ ของผู้ที่มีวิทยฐานะเป็นบัณฑิตนั่นเอง หากทุกคนสำนึกตระหนักในข้อนี้ แล้วปฏิบัติหน้าที่ทั้งนั้นให้จริงให้ตลอด ด้วยความมุ่งมั่นและจริงใจแล้ว แต่ละคนก็จะดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานให้สำเร็จผลสมบูรณ์ครบถ้วน ตามที่มุ่งหวังได้อย่างแท้จริง ทั้งจะเป็นที่ยอมรับและยกย่องว่า เป็นผู้ประพฤติตน ปฏิบัติงานได้สมกับที่เป็นบัณฑิตแท้"