เขากะโดง ปัญหาหมักหมมนาน 20 ปี โฆษกเพื่อไทย เดินหน้าตามคำพิพากษาศาล ไม่ใช่กลั่นแกล้งทางการเมือง ที่ดิน 5,083 เป็นที่หลวงมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ยันไม่มีแนวคิดทุบทำลายสิ่งก่อสร้าง บ้านเรือนประชาชน เร่งหาแนวทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อให้ไม่เสียประโยชน์
วันนี้ (10 ส.ค.68) นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ดินเขากระโดง ว่า ปัญหานี้ได้ถูกหมักหมมเป็นเวลากว่า 20 ปี เพื่อรักษานิติรัฐ นิติธรรม และบังคับใช้กฎหมาย ไม่ต้องการให้ผู้มีอิทธิพล และเครือข่าย ใช้ความเดือดร้อนของประชาชนเป็นข้ออ้างในการหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เรื่องที่ดินเขากระโดง จำนวน 5,083 ไร่ นั้น มีคำพิพากษาของศาลฎีกาเมื่อปี 2560 ซึ่งถือว่าเป็นที่สุด
พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของหลวง ตามข้ออ้างอิง พบว่า ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงพระราชทานที่ดินดังกล่าวให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ต่อมาในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีออกพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตการสร้างรถไฟ ตั้งแต่นครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี รวมไปถึงเขตบริเวณเขากระโดง ที่อยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์ด้วย ซึ่งศาลฎีกาได้มีคำพิพากษา ว่า ที่ดินในบริเวณเขากระโดงนั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทยตั้งแต่ต้น และถือว่าที่ดินนี้ คือ สมบัติของชาติ ไม่ใช่พื้นดินของใครคนใดคนหนึ่ง
"ไม่มีการกลั่นแกล้งทางการเมือง เพียงแต่พยายามบังคับใช้กฎหมาย เมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาออกมานั้น ในทางปฏิบัติการรถไฟแห่งประเทศไทย ยังไม่สามารถเข้าไปจัดการดูแลที่ดินซึ่งเป็นของตนเองได้ หลังจากนั้นได้มีการยื่นต่อศาลปกครองกลาง ในปี 2564 จนกระทั่งมีคำสั่งในปี 2566 ให้อธิบดีกรมที่ดินปฏิบัติตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ว่า การออกหนังสือสิทธิ์ในที่ดินนั้นคลาดเคลื่อน หรือ ไม่ชอบโดยกฎหมายหรือไม่ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่ศาลมีคำสั่ง"
นายดนุพร ยืนยันด้วยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของสมบัติประเทศการที่ที่ดินของหลวง 5,083 ไร่หายไป เชื่อว่าเป็นสิ่งที่คนไทยรับไม่ได้ และเมื่อคุยกันบนพื้นฐานของข้อมูลจะเห็น ว่า การดำเนินการของรัฐบาลนี้ ไม่ใช่การกลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เป็นการพยายามบังคับใช้กฎหมาย ตามที่ศาลฎีกาพิพากษามาแล้ว พร้อมย้ำว่า การที่มีการปั่นกระแสในโลกโซเชียล ว่า รัฐบาลจะดำเนินการทุบทำลายสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ อาคารต่าง ๆ รวมทั้ง บ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่นั้น รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไม่มีแนวคิดเช่นนั้น และเชื่อว่าเวลานี้รัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังออกแบบแนวทางการแก้ไขปัญหา ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สิ่งใดที่เอกชนดำเนินการไปแล้ว และสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ทำให้คนในพื้นที่เป็นอยู่ที่ดีขึ้น เรื่องนั้นไม่คิดที่จะไปทำลายทิ้ง แต่ต้องหาทางออกร่วมกัน ส่วนการจัดการจะเป็นอย่างไรก็ต้องดูกฎหมายเป็นตัวกำหนด
ขอให้ประชาชนไปค้นหาข้อมูล ว่า เรื่องนี้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว เพียงแต่รัฐบาลนี้ต้องการดำเนินการตามกฎหมาย เพื่อนำที่ของรัฐกลับมาเป็นของประเทศชาติ และนำกลับมาใช้ประโยชน์ให้กับประชาชนต่อไปในอนาคต